Keyword
Thai_Stocks.pptx (2)
PDF Available  
Company Update

THANI – เผชิญวิกฤตขาดทุนรถยึด

By กิตติมา สัตยพันธ์, CFA|16 Sep 24 11:05 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • การปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567: THANI ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลง 5% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ credit cost และสถานการณ์น้ำท่วม
  • สินเชื่อและ NIM: สินเชื่อหดตัวลง 44% YoY ใน 1H67 และ NIM มีแนวโน้มลดลง โดยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง
  • คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: คงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ THANI โดยยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 2 บาท

แม้ว่าจะผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว แต่ THANI ยังคงเผชิญกับวิกฤตขาดทุนจากรถยึด และพบว่าสินเชื่อหดตัวและ NIM ลดลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 5% หลักๆ เกิดจากการประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนราคารถบรรทุกมือสองที่ลดลงในเดือนก.ค. และสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ THANI โดยยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 2 บาท

 

ปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 ของ THANI เพิ่มขึ้น 50 bps สู่ 1.85(-10 bps) เพื่อสะท้อนราคารถบรรทุกมือสองที่ลดลงใน 3Q67 หลังจากดัชนีราคารถบรรทุกมือสองปรับตัวลดลง 7% MoM และ 15% YoY ในเดือนก.ค. รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือของประเทศไทย THANI ยังคงยึดรถคืนจำนวนมากที่ 140-150 คัน/เดือน ในเดือนก.ค.-ส.ค. เทียบกับค่าเฉลี่ย 120-130 คัน/เดือน ในปี 2566 และมีรถบรรทุกมือสองล้นตลาดจากการยึดรถคืนเร็วขึ้น อัตราขาดทุนจากรถยึดในปัจจุบันอยู่ที่ 25-30% สูงกว่าอัตราปกติที่ 10-15% ขณะที่ในปี 2568 เราคาดว่า credit cost จะลดลง 15 bps สู่ 1.7% เนื่องจาก NPL จะไหลเข้าช้าลงหลังจากบริษัทใช้นโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นและปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง และราคารถบรรทุกมือสองทำจุดต่ำสุด เราเชื่อว่าการเปิดตัวรถบรรทุกใหม่ภายใต้มาตรฐาน EURO5 เพิ่มมากขึ้นจะช่วยสนับสนุนราคารถบรรทุกมือสอง เนื่องจากรถบรรทุกมาตรฐาน EURO5 มีราคาสูงกว่ารถบรรทุกมาตรฐาน EURO3 ถึง 10%

 

สินเชื่อหดตัวลงต่ำกว่าเป้าค่อนข้างมาก THANI ปล่อยสินเชื่อ 8.75 พันลบ. ใน 1H67 ลดลง 44% YoY และต่ำกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 2.0 หมื่นลบ. ในปี 2567 (ต่ำกว่า 2.46 หมื่นลบ. ในปี 2566) ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นและความต้องการรถบรรทุกที่ชะลอตัวลง บริษัทพบว่าความต้องการจากธุรกิจก่อสร้างภาคเอกชนลดลง แม้ว่าการการสร้างภาครัฐจะเริ่มฟื้นตัวตามาการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ยอดขายรถบรรทุกใหม่ลดลง 14% MoM และ 43% YoY ในเดือนก.ค. ส่งผลทำให้ยอดขายรถบรรทุกใหม่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 ปรับตัวลดลง 37% เรายังคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ -8% ในปี 2567 (-5% YTD) และ 0% ในปี 2568 THANI คาดหวังว่าการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นความต้องการสินเชื่อใน 4Q67 และปี 2568

 

NIM มีแนวโน้มลดลง โดย upside จะมาจากโอกาสสูงขึ้นที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลดลง เราเล็งเห็น upside ต่อ NIM จากโอกาสสูงขึ้นที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง ซึ่งเห็นได้จากท่าทีผ่อนปรนมากขึ้นเล็กน้อยในแถลงการณ์ล่าสุดของ กนง. การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 25 bps จะทำให้ NIM ของ THANI มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 6 bps และกำไรสุทธิปี 2568 มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 3% ปัจจุบันที่ใช้สมมติฐานว่าไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดว่า NIM จะลดลง 38 bps ในปี 2567 และ 2 bps ในปี 2568

 

ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 5% เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 11%  (-19สำหรับ EPS) และจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตเล็กน้อยที่ 4ในปี 2568 สำหรับ 3Q67 เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยทั้ง QoQ (NII สูงขึ้น) และ YoY (ECL ลดลง)  

 

คงคำแนะนำ NEUTRAL โดยคงราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ THANI โดยที่ยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 2 บาท (อ้างอิง PBV ปี 2568 ที่ 0.85 เท่า)

 

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ขาดทุนจากการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น เนื่องจากราคารถบรรทุกมือสองลดลง และ 3) ความเสี่ยงขาลงต่อการเติบโตของสินเชื่ออันเป็นผลมาจากยอดขายรถบรรทุกที่ลดลง และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)

Author
Slide1
กิตติมา สัตยพันธ์, CFA

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มธุรกิจการเงิน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5