หลังการประชุมที่งาน Opportunity Day เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ของ THANI ลดลง 9% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 15% (-23% สำหรับ EPS) ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่หดตัวลง NIM ที่ลดลง และ ECL ที่สูงขึ้น เราเชื่อว่า credit cost ของ THANI ทำจุดสูงสุดไปแล้วใน 4Q66 และจะลดลง QoQ อย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 1Q67-4Q67 เนื่องจากมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากราคารถบรรทุกมือสอง เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ THANI โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงเล็กน้อยจาก 2.3 บาท สู่ 2.2 บาท สินเชื่อจะหดตัวลง THANI ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 2.0 หมื่นลบ. ในปี 2567 ต่ำกว่า 2.46 หมื่นลบ. ในปี 2566 ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นและความต้องการรถบรรทุกที่ชะลอตัวลง ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจากประมาณการเดิมที่ -4% สู่ -8% เทียบกับ +1% ในปี 2566 THANI วางแผนเปลี่ยนมาเน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกใหม่และสินเชื่อทะเบียนรถมากขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ บริษัทพบว่าความต้องการรถบรรทุกจากภาคก่อสร้างและภาคส่งออกชะลอตัวลง แต่ความต้องการจากภาคพาณิชย์และภาคเกษตรกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น Credit cost ทำจุดสูงสุด credit cost ของ THANI ได้รับแรงกดดันจากราคารถบรรทุกมือสองที่ลดลง บริษัทเชื่อว่า credit cost ทำจุดสูงสุดไปแล้วที่ 2.83% ใน 4Q66 และราคารถบรรทุกมือสองปรับตัวลงถึงจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อสิ้นปี 2566 ในขณะที่มีสัญญาณที่ดีว่าราคารถบรรทุกมือสองอยู่ในระดับทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้น 30% MoM ในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคพาณิชย์ เราคาดว่า credit cost ของ THANI จะลดลง QoQ อย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 1Q67-4Q67 จากระดับสูงสุดใน 4Q66 แต่จะเพิ่มขึ้นจาก 1.95% ในปี 2566 สู่ 2.25% ในปี 2567 THANI คาดว่าจะใช้เวลา 2 ไตรมาสในการเคลียร์สต๊อกรถยึดซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 300 คัน อัตราขาดทุนจากรถยึดอยู่ที่ 25-30% NIM มีแนวโน้มลดลง เราคาดว่า NIM จะลดลง 17 bps ในปี 2567 อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจาก 2.85% ในปี 2566 สู่ 3.15% ในปี 2567 เราคาดว่าผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะได้รับแรงกดดันจากการเปลี่ยนมาเน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกใหม่เพิ่มมากขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ THANI ปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกใหม่เพิ่มขึ้น 20-30 bps เพื่อรักษาผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อไว้ แนวโน้มกำไรอ่อนแอลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 9% เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 15% Dilution effect จากหุ้นปันผล (10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล) ทำให้เราคาดว่า EPS ปี 2567 จะลดลง 23% คงคำแนะนำ NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงเล็กน้อย เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ THANI โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงเล็กน้อยจาก 2.3 บาท สู่ 2.2 บาท (อ้างอิง PBV ปี 2567 ที่ 1 เท่า) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรลดลง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ขาดทุนจากการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น เนื่องจากราคารถบรรทุกมือสองลดลง และ 3) ความเสี่ยงขาลงต่อการเติบโตของสินเชื่ออันเป็นผลมาจากยอดขายรถบรรทุกที่ลดลง | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก THANI240321_T
|