เมื่อหักขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนออก AAV มีกำไรปกติอยู่ที่ 310 ลบ. ลดลง 18% YoY และ 81% QoQ และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากบริการเสริมที่อ่อนแอกว่าคาดและค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงขึ้น เราเห็นโอกาสในการ trading ระยะสั้นสำหรับ AAV เพราะผลประกอบการ 3Q67 น่าจะได้รับประโยชน์ในระยะสั้นจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตของกำไรจะกลับสู่ระดับปกติในปี 2568 เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AAV โดยให้เป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 2.8 บาท/หุ้น
2Q67: กำไรสุทธิดีกว่าคาด แต่กำไรปกติต่ำกว่าคาด AAV รายงานกำไรสุทธิ 84 ลบ. ใน 2Q67 ปรับตัวดีขึ้นจากที่มีขาดทุนสุทธิใน 2Q66 และ 1Q67 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง กำไรสุทธิออกมาสูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อยจากรายการพิเศษ เช่น ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าตลาดคาด แต่หากหักรายการนี้ออก พบว่า AAV มีกำไรปกติอยู่ที่ 310 ลบ. ลดลง 18% YoY และ 81% QoQ และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 360-397 ลบ. ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากบริการเสริมที่อ่อนแอกว่าคาดและค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงขึ้น การดำเนินงานของ AAV ฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เติบโตดีขึ้นเมื่อพิจารณาจากค่าโดยสารเฉลี่ย (+9% YoY, -9% QoQ) และจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด (+7% YoY, -9% QoQ)
ผลประกอบการ 3Q67 จะได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง เราคาดว่ากำไรปกติของ AAV จะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ ใน 3Q67 ในขณะที่รายได้จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย แต่มีปัจจัยบวกระยะสั้นในด้านต้นทุน คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินคิดเป็น ~40% ของต้นทุนการดำเนินงาน และต้นทุนการดำเนินงานที่อิงสกุลดอลลาร์สหรัฐ (น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน ค่าซ่อมบำรุง และค่าเช่าเครื่องบิน) คิดเป็น ~67% ของต้นทุนการดำเนินงาน สำหรับ QTD ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 93.6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-2% QoQ) และเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 35.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ย (-2% QoQ)
กำไรจะกลับมาเติบโตในระดับปกติในปี 2568 กำไรปกติ 1H67 แข็งแกร่งที่ 2.0 พันลบ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจาก 172 ลบ. ใน 1H66 เราปรับประมาณการกำไรปกติของ AAV เพิ่มขึ้น 66% ในปี 2567 และ 32% ในปี 2568 เนื่องจากเราปรับประมาณการค่าโดยสารเฉลี่ยในปี 2567-2568 เพิ่มขึ้นปีละ 1% และปรับประมาณการอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นสู่ 10% ในปี 2567 (จาก 8.4%) และ 10.7% ในปี 2568 (จาก 8.9%) ทั้งนี้หลังจากปรับประมาณการ เราคาดว่าการดำเนินงานและผลประกอบการของ AAV จะพลิกกลับมามีกำไรปกติที่ 3.0 พันลบ. ในปี 2567 (จากขาดทุนปกติ 206 ลบ. ในปี 2566) และจากนั้นจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยจะเติบโต 7% ในปี 2568 มาอยู่ที่ 3.3 พันลบ. โดยอิงกับมุมมองที่ว่าการเติบโตของค่าโดยสารจะกลับคืนสู่ระดับปกติจาก 2,033 บาท/คน (+14% YoY) ในปี 2567 มาอยู่ที่ 2,048 บาท/คน (+1% YoY) ในปี 2568 สอดคล้องกับ ASK capacity ที่เพิ่มขึ้น โดยจะกลับมาอยู่ที่ 102% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2568 (จาก 96% ในปี 2567)
คงคำแนะนำ NEUTRAL เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ของ AAV ไว้ที่ 2.8 บาท/หุ้น เนื่องจากการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นถูกหักล้างโดยการปรับ PE เป้าหมายลดลงมาอยู่ที่ 11 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ -1SD ของ PE เฉลี่ยของหุ้นสายการบินในตลาดภูมิภาคนับตั้งแต่ปี 2558 (ลดลงจาก 17 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย) การปรับ PE เป้าหมายลดลงสะท้อนถึงการดำเนินงานและผลประกอบการที่จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AAV
ปัจจัยเสี่ยง 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก 2) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินสูงขึ้น 3) เงินบาทอ่อนค่าลง และ 4) การแข่งขันรุนแรง เรามองว่าความเสี่ยง ESG คือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) และประเด็นด้านสังคม เช่น ความปลอดภัย (S)
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก AAV240822_T 1
Excluding FX loss, AAV’s core profit was Bt310mn, down 18% YoY and 81% QoQ, missing market estimates due to weaker ancillary income and rising tax expense. We see near-term trading opportunity since AAV’s 3Q24 earnings should enjoy benefit from a stronger baht and lower jet fuel price while its earnings growth is moving toward normalization in 2025. We maintain Neutral on AAV with end-2025 TP of Bt2.8/share.
|
---|
Click here to read and/or download AAV240822_E 1 |