AAV รายงานกำไรสุทธิ 3.1 พันลบ. ใน 4Q65 หลักๆ เกิดจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หากตัดรายการนี้ออกไป AAV รายงานขาดทุนปกติ 1.0 พันลบ. ดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 1.3 พันลบ. ใน 4Q64 และขาดทุนปกติ 1.2 พันลบ. ใน 3Q65 การดำเนินงานและผลประกอบการของ AAV มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการเปิดประเทศของไทย อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลตอบแทนไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยง เนื่องจากราคาหุ้น AAV เทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 29% บ่งชี้ว่าปัจจัยบวกสะท้อนในราคาหุ้นไปค่อนข้างมากแล้ว เรายังคงเรทติ้ง UNDERPERFORM สำหรับ AAV ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ปรับใหม่เป็น 2.5 บาท/หุ้น (จาก 2.0 บาท/หุ้น เนื่องจากเราใช้ PE เป้าหมายสูงขึ้นที่ 27 เท่า)
4Q65: กำไรสุทธิเพราะกำไรอัตราแลกเปลี่ยน แต่ขาดทุนปกติ AAV รายงานกำไรสุทธิ 3.1 พันลบ. ใน 4Q65 หลักๆ เกิดจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หากตัดรายการนี้ออกไป AAV รายงานขาดทุนปกติ 1.0 พันลบ. ดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 1.3 พันลบ. ใน 4Q64 และขาดทุนปกติ 1.2 พันลบ. ใน 3Q65 สำหรับปี 2565 AAV รายงานขาดทุนสุทธิ 8.0 พันลบ. และหากตัดรายการพิเศษออกไป พบว่าบริษัทมีขาดทุนปกติ 7.0 พันลบ. แย่ลงจากขาดทุนปกติ 4.6 พันลบ. ในปี 2564 จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Thai AirAsia เพิ่มเป็น 100% (จาก 51% ในปี 2564)
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ภาพรวมเป็นบวกเพราะการดำเนินงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ในปี 2566 AAV ตั้งเป้าผู้โดยสาร 20 ล้านคน (เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 10 ล้านคนในปี 2565, 90% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19) และบริษัทคาดว่าค่าโดยสารเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น AAV วางแผนเพิ่มปริมาณที่นั่งสู่ 79% ของปริมาณที่นั่งปี 2562 ใน 1Q66, 86% ใน 2Q66, 96% ใน 3Q66 และ 103% ใน 4Q66 (จาก 66% ใน 4Q65) สำหรับตลาดจีน (25-30% ของรายได้ของ AAV ในปี 2562) AAV วางแผนเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินสู่ 40 เที่ยว/สัปดาห์ ใน 1Q66, 100 เที่ยว/สัปดาห์ ใน 2Q66 และ 110 เที่ยว/สัปดาห์ ใน 3Q66-4Q66 (เทียบกับ 140 เที่ยว/สัปดาห์ ในปี 2562)
ปรับประมาณการผลประกอบการ เรายังคงประมาณการผลประกอบการของ AAV ไว้เหมือนเดิม โดยคาดว่าขาดทุนปกติจะลดลงสู่ 815 ลบ. ในปี 2566 จากนั้นจะพลิกกลับมามีกำไรปกติ 1.3 พันลบ. ในปี 2567 ทั้งนี้เมื่ออิงกับแผนเพิ่มปริมาณที่นั่งของ AAV เราคาดว่า AAV จะพลิกกลับมามีกำไรใน 2H66
Valuation ไม่น่าสนใจ ทั้งนี้เพื่อสะท้อนการดำเนินงานที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เราจึงปรับราคาเป้าหมายของ AAV เพิ่มขึ้นสู่ 2.5 บาท/หุ้น (จาก 2.0 บาท/หุ้น) เนื่องจากเราใช้ PE เป้าหมายสูงขึ้นที่ 27 เท่า (จาก 20 เท่า) ซึ่งเท่ากับระดับ +2SD PE ในปี 2558-2560 (ช่วงที่การดำเนินงานและผลประกอบการของ AAV ปรับตัวดีขึ้นหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบ) โดยอิงกับ EPS ปี 2567 แล้วคิดลดกลับมาเป็นมูลค่า ณ สิ้นปี 2566 อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลตอบแทนไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยง เนื่องจากราคาหุ้น AAV เทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 29% บ่งชี้ว่าปัจจัยบวกสะท้อนในราคาหุ้นไปค่อนข้างมากแล้ว
ปัจจัยเสี่ยง 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความต้องการเดินทางลดลง 2) ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินสูงขึ้น 3) เงินบาทอ่อนค่า และ 4) การแข่งขันรุนแรง