ผลประกอบการ 3QFY65 ของ AEONTS ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึงกำไรจากการขาย NPL จำนวนมาก การเติบโตของสินเชื่อระดับต่ำ NIM ที่แคบลง คุณภาพสินทรัพย์ในระดับทรงตัว และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงทำให้เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ AEONTS ลงสู่ NEUTRAL แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 203 บาท สู่ 208 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการ credit cost ลดลง เนื่องจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด
ผลประกอบการ 3QFY65 ของ AEONTS ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึงกำไรจากการขาย NPL จำนวนมาก การเติบโตของสินเชื่อระดับต่ำ NIM ที่แคบลง คุณภาพสินทรัพย์ในระดับทรงตัว และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงทำให้เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ AEONTS ลงสู่ NEUTRAL แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 203 บาท สู่ 208 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการ credit cost ลดลง เนื่องจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด
3QFY65: กำไรออกมาตามคาด กำไรสุทธิ 3QFY65 (ก.ย.-พ.ย. 2565) ของ AEONTS เพิ่มขึ้น 22% QoQ และ 35% YoY สู่ 1.1 พันลบ. เป็นไปตามคาด กำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากกำไรจากการขาย NPL จำนวนมาก
รายการสำคัญ:
1) คุณภาพสินทรัพย์: credit cost เพิ่มขึ้น 4 bps QoQ (แต่ลดลง 9 bps YoY) สู่ 7.97% เราคาดการณ์ credit cost ปี FY2565 ที่ 7.5% เทียบกับ 7.6% ใน 9MFY65 โดยคาดว่าจะลดลง QoQ ใน 4QFY65 อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 14 bps QoQ LLR coverage ลดลงสู่ 196% จาก 207% ณ 2QFY65
2) การเติบโตของสินเชื่อ: สินเชื่อเติบโต 1.1% QoQ, 6.2% YoY และ 4.5% YTD สินเชื่อบัตรเครดิตเติบโต 3% QoQ, 15% YoY และ 10% YTD สินเชื่อส่วนบุคคลหดตัวลง 1% QoQ แต่เติบโต 1% YoY และ 1% YTD เราปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี FY2565 ลดลง 1 ppt จาก 7% สู่ 6%
3) NIM: NIM หดตัวลง 8 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อลดลง 8 bps QoQ และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 1 bps QoQ
4) Non-NII: non-NII เพิ่มขึ้น 42% QoQ (+53% YoY) โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากการขาย NPL จำนวนมากถึง 300 ลบ.
5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: ลดลง 150 bps QoQ และ 262 bps YoY
แนวโน้ม 4QFY65 และปี FY2566 เราคาดว่ากำไร 4QFY65 จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY สะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้น NIM ที่ลดลง หนี้สูญรับคืนที่สูงขึ้น กำไรจากการขาย NPL ที่ลดลงมาก และ credit cost ที่ลดลง สำหรับปี FY2566 เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 10% (เทียบกับ 8% ในปี FY2565) โดยเกิดจากสินเชื่อที่เติบโต 7% NIM ที่หดตัวลง 21 bps เนื่องจากต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น หนี้สูญรับคืนที่เติบโต 15% และ credit cost ที่ลดลง 10 bps ทั้งนี้เพื่อสะท้อนความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลงเนื่องจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด เราจึงปรับประมาณการ credit cost ปี FY2566 ลดลง 5 bps ซึ่งหนุนให้ประมาณการกำไรปี FY2566 ปรับเพิ่มขึ้น 2%
ปรับลดคำแนะนำลงสู่ NEUTRAL หลังจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ AEONTS ลงสู่ NEUTRAL หลังจากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 203 บาท สู่ 208 บาท เพื่อสะท้อนความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลง เนื่องจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น และ 3) ความเสี่ยงด้านกฎหมายจากการที่ ธปท.วางแผนลดการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันโดยไม่มีความจำเป็นเพื่อลดหนี้ครัวเรือน