AH รายงานกำไรสุทธิ 562 ลบ. ใน 1Q66 (เพิ่มขึ้น 40% YoY และ 38% QoQ) หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนออกไป พบว่ากำไรปกติทำสถิติสูงสุดที่ 594 ลบ. (เพิ่มขึ้น 47% YoY และ 1% QoQ) โดยได้แรงหนุนจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง เราคาดว่ากำไรปกติของ AH จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเติบโต YoY ต่อเนื่องใน 2Q66 แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะลดลง เราชอบที่ AH มีกิจการอยู่ในฐานการผลิตที่สำคัญของโลก: ประเทศไทย โปรตุเกส และจีน และจะได้รับประโยชน์จากยอดขาย EV ที่เติบโตเพิ่มขึ้น เราให้คำแนะนำ tactical call ระยะ 3 เดือนที่ OUTPERFORM สำหรับ AH ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 44 บาท/หุ้น
1Q66: กำไรปกติทำสถิติสูงสุด AH รายงานกำไรสุทธิ 1Q665 จำนวน 562 ลบ. (เพิ่มขึ้น 40% YoY และ 38% QoQ) หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนออกไป พบว่ากำไรปกติทำสถิติสูงสุดที่ 594 ลบ. (เพิ่มขึ้น 47% YoY และ 1% QoQ) โดยได้แรงหนุนจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง
รายการที่สำคัญ
คงประมาณการกำไร แนะนำ OUTPERFORM กำไร 1Q66 คิดเป็น 33% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา และเรายังคงประมาณการกำไรของเราไว้ที่ 1.8 พันลบ. (เติบโต 8%) เราคาดว่ากำไรปกติของ AH จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเติบโต YoY ต่อเนื่องใน 2Q66 แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก Hyundai Motor (Thailand) จะลดลง เราชอบที่ AH มีกิจการอยู่ในฐานการผลิตที่สำคัญของโลก: ประเทศไทย โปรตุเกส และจีน และจะได้รับประโยชน์จากยอดขาย EV ที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดย AH มียอดขายชิ้นส่วน EV ~700 ลบ. ในปี 2565 (3% ของยอดขาย) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2565 โดยอิงกับคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราอยู่ที่ 44 บาท/หุ้น อิงกับ PE 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงที่กำไรของ AH กลับมาเติบโตตามปกติ)
ปัจจัยเสี่ยง 1) ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะการดำเนินงานของ AH ในโปรตุเกส (16% ของยอดขาย) และ 2) การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่การประกอบรถยนต์ไปจนถึงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หยุดชะงัก
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม AH230512