เราคาดว่าผลเรียกเก็บเงินสดของ BAM จะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากใน 2Q66 แต่จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2566 กำไร 2Q66 น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ แต่จะลดลง YoY ทั้งนี้แม้ว่า valuation ถูก หลังจากปรับตัว underperform มานานกว่า 1 ปี แต่เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ BAM และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 14 บาท เพราะคาดว่ากำไรจะเติบโตเพียงเล็กน้อยในระยะ 3 ปีข้างหน้า
ผลเรียกเก็บเงินสดจะฟื้นตัวใน 2Q66 ผลเรียกเก็บเงินสดมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ดีใน 2Q66 โดย BAM ตั้งเป้าผลเรียกเก็บเงินสดใน 2Q66 ที่ 4.46 พันลบ. เติบโต 13% YoY และ 39% QoQ (จากปัจจัยฤดูกาล) สำหรับเดือนเม.ย.-พ.ค. BAM เรียกเก็บเงินสดได้ราว 90% ของเป้าที่วางไว้ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะบันทึกผลเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ NPL รายใหญ่ 1 ราย (มูลค่าราว 100 ลบ.) ใน 2Q66
เป้าผลเรียกเก็บเงินสด 5 ปี: เติบโตเล็กน้อย BAM ตั้งเป้าผลเรียบเก็บเงินสดเติบโตปีละ 4-5% ในปี 2566-2570 เป้าหมายดังกล่าวอิงกับการคาดการณ์แบบ bottom-up และยังไม่รวมผลเรียกเก็บเงินสดจากลูกค้ารายใหญ่
แนวโน้มกำไร 2Q66 และปี 2566 เมื่ออิงกับเป้าผลเรียกเก็บเงินสดที่ BAM วางไว้ใน 2Q66 ที่ 4.46 พันลบ. (+39% QoQ, +13% YoY) เราคาดว่ากำไร 2Q66 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY แต่จะลดลง QoQ (ผลเรียกเก็บเงินสดดีขึ้น แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง และอัตราภาษีที่แท้จริงสูงขึ้น) เราคาดว่ากำไรจะเติบโตเล็กน้อย 2% ในปี 2566 โดยเกิดจากผลเรียกเก็บเงินสดที่เติบโต 5% อัตรากำไรขั้นต้นในระดับทรงตัว ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 15 bps และอัตราภาษีที่แท้จริงที่เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2565 สู่ 20%
คงเรทติ้ง NEUTRALและคงราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ valuation ถูกหลังจากราคาหุ้น ปรับตัวลดลงมาแล้ว 40% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ BAM และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 14 บาท (PBV 1 เท่า หรือ PE 16 เท่า ในปี 2566) เนื่องจากเรามองว่าปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นมีจำกัด เพราะคาดว่ากำไรจะเติบโตเพียงเล็กน้อยและการแข่งขันจะสูงขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านการเรียกเก็บเงินสดจากเงินเฟ้อสูงและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม BAM230613_T (1)