เราคาดการณ์กำไรปกติ 4Q65 ของ BJC ที่ 1.55 พันลบ. +13% YoY จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น และ +74% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นใน 1Q66TD ช่วยหนุนให้ SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำถึงกลาง YoY (SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B ใน 1Q66TD) เราคาดว่ากำไร 1Q66 จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คงเรทติ้ง OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาท
เราคาดการณ์กำไรปกติ 4Q65 ของ BJC ที่ 1.55 พันลบ. +13% YoY จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น และ +74% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นใน 1Q66TD ช่วยหนุนให้ SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำถึงกลาง YoY (SSS เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B ใน 1Q66TD) เราคาดว่ากำไร 1Q66 จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คงเรทติ้ง OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาท
คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 1.55 พันลบ. +12% YoY และ +66% QoQ เราประเมินว่าจะไม่มีรายการพิเศษ ดังนั้นกำไรปกติ 4Q65 จะอยู่ที่ 1.55 พันลบ. +13% YoY และ +74% QoQ กำไรปกติที่เพิ่มขึ้น YoY จะได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น ในขณะที่กำไรปกติที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากปัจจัยฤดูกาล BJC จะประกาศผลประกอบการวันที่ 22 ก.พ.
ยอดขายใน 4Q65 เราคาดว่ายอดขายจะเติบโต 5% YoY สู่ 3.9 หมื่นลบ. โดยได้แรงหนุนจากกลุ่ม MSC และกลุ่ม PSC ยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ (MSC) คาดว่าจะเติบโต 5% YoY จากการเติบโตของ SSS และการขยายสาขา (ขยายสาขาเพิ่ม 6% YoY สู่ 1,816 สาขา ณ สิ้นปี 2565) SSS น่าจะกลับมาเติบโต 2.5% YoY (เทียบกับ -0.1% YoY ใน 4Q64 และ -2.4% YoY ใน 3Q65) หรือเติบโต 5% YoY หากไม่รวมยอดขายกลุ่ม B2B (BJC ได้ปรับลดยอดขายกลุ่ม B2B ที่สามารถทำกำไรได้น้อยใน 4Q65TD) ในด้านโมเมนตัม SSS ลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนต.ค. เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วม แต่เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ในเดือนพ.ย. และตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY ในเดือนธ.ค. เพราะไม่มีฝน กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีอีเว้นท์ World Cup ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ถึง 18 ธ.ค. SSS มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในส่วนของ Big C Mini ตามด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารจะเติบโตดีกว่ายอดขายสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร ยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ (PSC) คาดว่าจะเติบโต 12% YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายบรรจุภัณฑ์แก้วและกระป๋องอลูมิเนียมที่ดีขึ้น ยอดขายกลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค (CSC) คาดว่าจะลดลง 8% YoY เนื่องจากการย้ายการรับรู้รายได้ด้านโลจิสติกส์ของบิ๊กซีออกจากกลุ่ม CSC ไปยังกลุ่ม MSC จะไปหักล้างยอดขายที่ดีขึ้นจากธุรกิจอาหารและธุรกิจอุปโภค
มาร์จิ้นใน 4Q65 เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 20bps YoY สู่ 19.3% เนื่องจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นที่กลุ่ม MSC จากการมีส่วนผสมสินค้าที่ดีขึ้น ยอดขายกลุ่ม B2B ที่ให้มาร์จิ้นต่ำที่ลดลง และการบริหารจัดการกิจกรรมส่งเสริมการขายและสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น จะถูกลดทอนลงบางส่วนโดยมาร์จิ้นที่อ่อนแอลงที่กลุ่ม PSC (ต้นทุนวัตถุดิบพลังงาน โซดาแอช และอลูมิเนียมสูง) และกลุ่ม CSC (ต้นทุนเยื่อกระดาษที่สูงขึ้นไปหักล้างต้นทุนน้ำมันปาล์มที่ลดลง) อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 20.1% +10bps YoY เพราะค่าใช้จ่าย SG&A (ค่าสาธารณูปโภค) เพิ่มขึ้นมากกว่ายอดขายเล็กน้อย รายได้ค่าเช่าและอื่นๆ คาดว่าจะเติบโต 8.5% YoY โดยเกิดจากการให้ส่วนลดค่าเช่าแก่ผู้เช่าลดลงและอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้น เราคาดว่า EBIT margin จะลดลง 30bps YoY สู่ 7.9% โดยเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น