Keyword
Company Update

CPALL – 1Q66: กำไรสุทธิสูงกว่าคาดเพราะกำไร FX; กำไรปกติตามคาด – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 78 บาท)

11 May 23 12:00 PM
12052023-19-20240912054055

กำไรสุทธิ 1Q66 ของ CPALL อยู่ที่ 4.1 พันลบ. +19% YoY และ +31% QoQ สูงกว่าคาด เพราะกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่กำไรปกติ 1Q66 เป็นไปตามคาดที่ 4 พันลบ. +15% YoY จากธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้น และ +32% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q66 จะเติบโต YoY โดยเกิดจากยอดขายที่ดีขึ้นทั้งธุรกิจ CVS และ MAKRO แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และกำไรจะดีขึ้น HoH ใน 2H66 เพราะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ของ MAKRO เสร็จในช่วงปลายเดือนเม.ย. เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ CPALL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7% และอัตราการเติบโตระยะยาว 2.5%) ที่ 78 บาท

กำไรสุทธิ 1Q66 อยู่ที่ 4.1 พันลบ. +19% YoY และ +31% QoQ สูงกว่าที่เราคาด 12% และสูงกว่า consensus คาด 7% เพราะกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่รวมกำไรพิเศษจำนวน 106 ลบ. (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 233 ลบ. ลบด้วยค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดของ MAKRO ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CPALL จำนวน 127 ลบ.) กำไรปกติ 1Q66 เป็นไปตามคาดที่ 4.0 พันลบ. +15% YoY โดยเกิดจากการดำเนินงานของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่ดีขึ้น ท่ามกลางส่วนแบ่งกำไรในระดับทรงตัวจาก MAKRO และ +32% QoQ จากค่าใช้จ่ายโบนัสที่ลดลงตามฤดูกาลที่ธุรกิจ CVS

รายการที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ CVS ใน 1Q66SSS เติบโต 8% YoY (เทียบกับ +13% YoY ใน 1Q65 และ +15% YoY ใน 4Q65) จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จำนวนลูกค้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 941 คน/สาขา/วัน (+8% YoY) และยอดซื้อต่อบิลอยู่ที่ 84 บาท (ทรงตัว YoY) ยอดขาย 74.5% จากยอดขายทั้งหมดเกิดจากสินค้ากลุ่มอาหาร (+60bps YoY ได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ดีขึ้นในช่วงอากาศร้อนและการจัดโปรโมชั่นมากขึ้น) และ 25.5% เกิดจากสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร สาขา CPALL เปิดสาขาเพิ่ม 209 สาขาใน 1Q66 ส่งผลทำให้จำนวนสาขาสุทธิอยู่ที่ 14,047 สาขา ณ สิ้น 1Q66 +6% YoY และ +2% QoQ อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น 80bps YoY สู่ 27.9% โดยเกิดจาก 1) ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของศูนย์กระจายสินค้าควบคู่กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นและรายได้ rebate จากซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งขึ้น; 2) อัตรากำไรขั้นต้น (จากการผสมผสานของสินค้าภายในร้าน) ที่ดีขึ้น 50bps YoY สู่ 26.6% ซึ่งเป็นผลมาจากมาร์จิ้นของสินค้ากลุ่มอาหารที่กว้างขึ้น (+40bps YoY จากการปรับราคาสินค้าให้ครอบคลุมต้นทุนและการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ของยอดขายสินค้าแพ็กใหญ่ที่ให้มาร์จิ้นต่ำ) และมาร์จิ้นของสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหารที่กว้างขึ้น (+90bps YoY จากยอดขายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวที่ให้มาร์จิ้นสูงที่ดีขึ้น) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (ไม่รวม MAKRO) อยู่ที่ 2.5 พันลบ. +8% YoY เนื่องจาก CPALL ได้ออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (perpetual bond) มูลค่า 1.0 หมื่นลบ. ในเดือนส.ค. 2565

รายการที่สำคัญเกี่ยวกับ MAKRO ใน 1Q66 (CPALL ถือหุ้น 60%) กำไรปกติ 1Q66 ของ MAKRO อยู่ที่ 2.1 พันลบ. +1% YoY เนื่องจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นของธุรกิจ B2B ช่วยชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงและอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้นของธุรกิจ B2C แต่ -23% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

ความคืบหน้าในการรีไฟแนนซ์หนี้ของ MAKRO เมื่อวันที่ 20 เม.ย. บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (MAKRO ถือหุ้น 99.9%) ได้ออกหุ้นกู้มูลค่า 3.15 หมื่นลบ. โดยมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยที่ 3.35% ต่อปี และอายุเฉลี่ยที่ 4.7 ปี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. MAKRO ได้นำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระหนี้เงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐและบาทที่มีต้นทุนสูงสำหรับ Lotus’s แล้ว ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยลดลงและจะช่วยขจัดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยจากเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ 2Q66 เป็นต้นไป เราประเมินได้ว่า CPALL จะประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (หลังภาษี) ในงบการเงินรวมได้ ~400 ลบ./ปี (ช่วยหนุนให้กำไรเติบโต 3% จากฐานกำไรปี 2565)

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  CPALL230511_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5