Keyword
Company Update

CPF – 4Q66: ขาดทุนปกติมากกว่าคาด – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท)

29 Feb 24 9:00 AM
THUMNAIL-18-(7)-20240912045657

CPF มีขาดทุนปกติ 8.1 พันลบ. ใน 4Q66 มากกว่าคาด โดยมีสาเหตุมาจากมาร์จิ้นที่อ่อนแอจากราคาสุกรระดับต่ำและดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ด้วยต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงและราคาสัตว์บกในประเทศไทยและเวียดนามที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ราคาสุกรในประเทศจีนยังอ่อนแอและดอกเบี้ยจ่ายสูงใน 1Q67TD เราจึงคาดว่าขาดทุนปกติใน 1Q67 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY แต่จะลดลง QoQ เมื่อใช้สมมติฐานว่าธุรกิจสัตว์บกในประเทศและธุรกิจต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผลประกอบการของ CPF จะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นใน 2H67 เราแนะนำ NEUTRAL สำหรับ CPF โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่สิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี SOTP ที่ 22.5 บาท (จากราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 22 บาท) ซึ่งประกอบด้วย 0.5 บาทจากธุรกิจของ CPF (PE 14x สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์, 12x สำหรับธุรกิจฟาร์ม และ 16x สำหรับธุรกิจอาหาร) และ 22 บาทจากการถือหุ้นใน CPALL และ CPAXT

กำไรสุทธิ 4Q66 อยู่ที่ 121 ลบ. เทียบกับกำไรสุทธิ 1.8 พันลบ. ใน 4Q65 และขาดทุนสุทธิ 1.8 พันลบ. ใน 3Q66 สูงกว่าคาดจากกำไรพิเศษ 8.1 พันลบ. (2.7 พันลบ. จากการขายธุรกิจฟาร์มไก่ที่สร้างผลขาดทุนในประเทศจีนออกไปบางส่วนโดย CPP HK และ 5.4 พันลบ. จากการขายธุรกิจฟาร์มหมูในประเทศจีนโดย CTI) ขาดทุนปกติใน 4Q66 อยู่ที่ 8.1 พันลบ. แย่กว่าคาด โดยมีสาเหตุมาจาก: 1) อัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอเพราะราคาสุกรในประเทศไทยและประเทศเวียดนามอยู่ในระดับต่ำ; และ 2) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น (+14% YoY, +8% QoQ) CPF งดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2566

ประเด็นสำคัญจากการประชุมราคาสัตว์บกในประเทศไทยและต้นทุนอาหารสัตว์ ใน 1Q67TD ราคาสุกรในประเทศอยู่ที่ 69 บาท/กก. (-21% YoY, +5% QoQ) เทียบกับจุดคุ้มทุนที่ระดับกำไรขั้นต้นที่ 64-68 บาท/กก. สำหรับผู้ประกอบการสุกรรายใหญ่ ขณะที่ราคาไก่เนื้อในประเทศอยู่ที่ 40 บาท/กก. (-2% YoY, +5% QoQ) เทียบกับจุดคุ้มทุนที่ระดับกำไรขั้นต้นที่ 37-38 บาท/กก. ใน 1Q67TD อุปทานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกส่งผลทำให้ต้นทุนข้าวโพดและกากถั่วเหลืองนำเข้า (spot price) ปรับตัวลดลงสู่ 10.4 บาท/กก. (-22% YoY, -1% QoQ) และ 22.8 บาท/กก. (-3% YoY, +3% QoQ) ในปี 2567 CPF คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงจากปีก่อน บริษัทคาดว่าราคาสุกรจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นใน 2H67 จากการควบคุมเนื้อสุกรนำเข้าผิดกฎหมายได้ดีขึ้น และการลดอุปทานโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ โดยผู้ประกอบการสุกรไทยจะร่วมมือกันลดการผลิตสุกรลง 5,000 ตัว/วัน (9-10% ของการผลิตต่อวัน) หรือ 0.5 ล้านตัว/90 วัน (3% ของการผลิตต่อปี) เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยจะเห็นอุปทานลดลงภายใน 6 เดือน ราคาไก่เนื้อจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อความต้องการส่งออกกลับคืนมา โดยราคาสุกรที่ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง การดำเนินงานในประเทศเวียดนามและประเทศจีน ราคาสุกรในประเทศเวียดนามและประเทศจีนอยู่ที่ VND55,000/กก. (+10% YoY, +12% QoQ) และ CNY14.5/กก. (-6% YoY, -3% QoQ) เทียบกับจุดคุ้มทุนที่ระดับกำไรขั้นต้นที่ VND48,000/กก. และ CNY17.5/กก. CPF คาดว่าราคาในปี 2567 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากอุปสงค์ที่ดีขึ้นและอุปทานที่ลดลง ทั้งนี้หลังจากขายธุรกิจฟาร์มไก่และฟาร์มสุกรที่สร้างผลขาดทุนในจีนออกไปบางส่วนโดยคิดเป็น 30% และ 20% ของกำลังการผลิตที่มีอยู่ใน 4Q66 เราคาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจเหล่านี้จะลดลง 3-7 พันลบ. ในปี 2567 ประเทศอื่นๆ หลังจากปรับปรุงธุรกิจในประเทศอินเดีย (ลดขนาดฟาร์มไก่เนื้อ) และ Bellesio (การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่) และมีการสั่งห้ามนำเข้าสุกรผิดกฎหมายตั้งแต่เดือนมี.ค. ในกัมพูชา เราคาดว่าผลขาดทุนจะลดลง YoY นอกจากนี้หลังจากขายธุรกิจที่สร้างผลขาดทุนในสหรัฐฯ ออกไปในช่วงกลางปี 2566 Hylife น่าจะกลับมาทำกำไรได้ในปี 2567 ดอกเบี้ยจ่าย จะยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินสูงที่ 4.3% ต่อปี ในปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 1.6 เท่า ณ สิ้นปี 2566 ต่ำกว่า debt covenant ที่ 2.0 เท่า CPF คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะอยู่ที่ระดับนี้หรือต่ำกว่านี้ จากการควบคุมต้นทุน การลงทุนใหม่ลดน้อยลง การหยุดกิจการที่ไม่สามารถทำกำไร และการขายธุรกิจที่สร้างผลขาดทุน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ อุปสงค์และราคาที่ลดลงจากเศรษฐกิจที่เปราะบางและอุปทานที่มากขึ้น และต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ปัจจัยเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค/พนักงาน (S)

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  CPF240229_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5