แม้ DTAC รายงานกำไรปกติ 4Q65 ดีกว่าคาด แต่จะมีผลต่อราคาหุ้นน้อยมาก เนื่องจากนักลงทุนจะพุ่งความสนใจไปที่ synergy value หลังควบรวมกิจการ รวมถึงระยะเวลาที่จะรับรู้ synergy ซึ่งจะมีการประกาศหลังจากกระบวนการควบรวมกิจการแล้วเสร็จใน 1Q66 เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ยังไม่มีความแน่นอนในขณะนี้ เราจึงคาดว่าราคาหุ้น DTAC จะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (sideways) เพื่อรอความชัดเจน เรายังคงคำแนะนำเชิง tactical สำหรับ DTAC ไว้ที่ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาท (ยังไม่รวม synergy value) อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า synergy ในระยะสั้นจะมีจำกัด โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการเยียวยาจาก กสทช.
แม้ DTAC รายงานกำไรปกติ 4Q65 ดีกว่าคาด แต่จะมีผลต่อราคาหุ้นน้อยมาก เนื่องจากนักลงทุนจะพุ่งความสนใจไปที่ synergy value หลังควบรวมกิจการ รวมถึงระยะเวลาที่จะรับรู้ synergy ซึ่งจะมีการประกาศหลังจากกระบวนการควบรวมกิจการแล้วเสร็จใน 1Q66 เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ยังไม่มีความแน่นอนในขณะนี้ เราจึงคาดว่าราคาหุ้น DTAC จะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (sideways) เพื่อรอความชัดเจน เรายังคงคำแนะนำเชิง tactical สำหรับ DTAC ไว้ที่ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 42 บาท (ยังไม่รวม synergy value) อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า synergy ในระยะสั้นจะมีจำกัด โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการเยียวยาจาก กสทช.
กำไรปกติ 4Q65 ดีกว่า consensus คาด DTAC รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 901 ลบ. เพิ่มขึ้นมากถึง 85.3% QoQ และ 427.8% YoY หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติอยู่ที่ 423 ลบ. ลดลง 13.1% QoQ และ 17.9% YoY แต่สูงกว่า consensus คาดอยู่ 7.8% กำไรปกติปี 2565 อยู่ที่ 2.3 พันลบ. ลดลง 35.2% YoY
รายการที่เกี่ยวกับการดำเนินงานส่วนใหญ่ยังคงอ่อนแอ รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC อยู่ที่ 1.38 หมื่นลบ. ลดลง 0.5% QoQ และ 0.9% YoY โดยมีสาเหตุมาจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการระบบรายเดือน แม้ว่ารายได้ที่มาจากระบบเติมเงินจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าว จำนวนผู้ใช้บริการใหม่สุทธิอยู่ที่ 106 พันเลขหมาย แต่ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนลดลง 39 พันเลขหมาย blended ARPU อยู่ที่ 217 บาท/เลขหมาย/เดือน ลดลง 2.4% QoQ และ 9.3% YoY สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรง รายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 2.5 พันลบ. ลดลง 24.8% QoQ และ 27.6% YoY โดยมีสาเหตุมาจากการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ใน 3Q65 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการปกติ
ประเด็นสำคัญจากการประชุมทางโทรศัพท์ ภาพรวมยังคงเป็นกลาง เนื่องจากผู้บริหาร DTAC ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนธุรกิจหลังจากควบรวมกิจการ เนื่องจากต้องการรอให้ผู้บริหารชุดใหม่เป็นผู้ประกาศ กระบวนการควบรวมกิจการคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1Q66 ทั้งนี้จากประกาศล่าสุด DTAC จะหยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. บริษัทใหม่น่าจะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 3 มี.ค.
ไม่ได้เปิดเผยเป้าหมายทางการเงิน เนื่องจาก DTAC อยู่ในขั้นตอนการควบรวมกิจการ ดังนั้นผู้บริหารจะไม่เปิดเผยเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 2566 แต่จะเปิดเผยเป้าหมายทางการเงินเมื่อกระบวนการควบรวมกิจกิจการแล้วเสร็จ
คาดกำไรปกติปี 2566 เติบโต 87.5% YoY เราคาดการณ์กำไรปกติปี 2566 ของ DTAC ที่ 4.2 พันลบ. ปรับตัวดีขึ้น 87.5% YoY โดยจะได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากการฟื้นตัวของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC (จากรายได้ระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าว และการแข่งขันในระบบรายเดือนที่ทรงตัว) และการลดต้นทุนลงอีก
ความเสี่ยงและความกังวล การแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่หลังควบรวมกิจการจะยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้าง downside ต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของเราที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น นอกจากนี้ มาตรการเยียวยาจาก กสทช. จะทำให้ synergy value มีจำกัดในช่วง 3 ปีแรก