ราคาหุ้น EPG ปรับตัวลดลง 49% YTD underperform SET ที่ลดลง 5.6% ค่อนข้างมาก สะท้อนถึงความกังวลที่นักลงทุนมีต่อผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์และการตั้งสำรองผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มเติมสำหรับสินค้าที่ส่งมอบให้กับธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้ แม้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกยังคงรุนแรง และส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของ EPP แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้ได้รับการแก้ไขและคลี่คลายไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีสัญญาณบวกเพิ่มเติม เราคาดว่านักลงทุนจะยังคงให้ความสนใจต่อ EPG ค่อนข้างน้อย เราปรับประมาณการกำไรปี FY2568 ลดลง 23% เพื่อสะท้อน ECL ที่เกิดขึ้นจริงและที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ เรายังปรับราคาเป้าหมายลดลงมาอยู่ที่ 5.2 บาท อ้างอิง P/E 12 เท่า คงคำแนะนำ NEUTRAL
คงเป้าการเติบโตของรายได้จากการขายสำหรับปี FY2568 EPG คงเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 8-10% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-33% สำหรับปี FY2568 โดยคาดว่า แอร์โรเฟลกซ์ (AFC) จะช่วยสนับสนุนกำไรด้วยรายได้จากการขายที่เติบโต 6-8% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 43-45% รองลงมาคือ แอร์โรคลาส (ARK) ซึ่งตั้งเป้ารายได้จากการขายเติบโต 10-12% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-33% ในขณะที่คาดว่ารายได้ของ EPP จะยังคงเติบโตในระดับต่ำที่ 3-5% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 12-15% เนื่องจากการแข่งขันยังสูงต่อเนื่อง ธุรกิจฉนวนยางในสหรัฐฯ มีศักยภาพสูง ผู้บริหารยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของ AFC เนื่องจากบริษัทพบว่ามีความต้องการฉนวนมากขึ้นในโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ความต้องการฉนวนในธุรกิจ data center ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าของ AFC ในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ก็ยังอยู่ในระดับสูง การย้ายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยเริ่มส่งผลดีต่อ AFC โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยผู้ผลิตในจีน
ปรับประมาณการกำไรลดลงเพื่อสะท้อน ECL เราปรับประมาณการกำไรปี FY2568 ลดลง 23% เพื่อสะท้อนการตั้งสำรอง ECL เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ EPG เนื่องจากยังมองไม่เห็นปัจจัยใหม่ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงมาอยู่ที่ 5.20 บาท (จาก 8.90 บาท) อ้างอิงระดับ -2SD P/E ที่ 12 เท่า (ปี FY2568) เราคาดว่าการตั้งสำรอง ECL จะลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไปตามข้อมูลที่ได้จากผู้บริหาร เนื่องจากบริษัทกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องที่ธุรกิจร่วมทุนในแอฟริกาใต้ ปัจจัยเสี่ยง เศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าของ EPG และต่อเนื่องมาถึงรายได้ของบริษัท และราคาวัตถุดิบหลักที่สูงขึ้น ความเสี่ยงด้าน ESG คือ การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ (E)
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก EPG240822_T
|
---|