หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติของ ERW อยู่ที่ 224 ลบ. ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 315 ลบ. ใน 1Q65 แต่ลดลงเล็กน้อย 2% QoQ เป็นไปตาม INVX และตลาดคาด ข้อมูลสถิติเดือนเม.ย. บ่งชี้ถึงช่วงโลว์ซีซั่นที่แข็งแกร่ง และเราคาดว่า ERW จะรายงานกำไรใน 2Q66 ดีขึ้นจากขาดทุนใน 2Q65 แต่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 502 ลบ. สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 3% ERW เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 5.5 บาท/หุ้น
1Q66: กำไรตามคาด ERW รายงานกำไรสุทธิ 239 ลบ. ใน 1Q66 หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการกลับรายการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน กำไรปกติอยู่ที่ 224 ลบ. ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 315 ลบ. ใน 1Q65 แต่ลดลงเล็กน้อย 2% QoQ ผลประกอบการเป็นไปตาม INVX และตลาดคาด กำไรที่เติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก RevPar และ EBITDA margin ที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ มีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
รายการที่สำคัญใน 1Q66: หากไม่รวมกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN (ที่มีสัดส่วน ~20% ของรายได้) รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ใน 1Q66 เพิ่มขึ้นมาก YoY และเพิ่มขึ้น 5% QoQ โดยได้แรงหนุนจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่เพิ่มขึ้น 2% QoQ และอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นที่ 84% (จาก 82% ใน 4Q65) RevPar ใน 1Q66 ของ ERW สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 6% ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 135 ลบ. (+21% YoY และ 11% QoQ) เพราะต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสู่ 3.84% ใน 1Q66 (จาก 3.12% ในปี 2565) ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ที่ 1.7 เท่า ณ วันที่ 31 มี.ค. 2566 ต่ำกว่า 1.8 เท่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 และ debt covenant ที่ 2.5 เท่า
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ERW เปิดเผยว่าอัตราการเข้าพักเดือนเม.ย. (ไม่รวมกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN) แข็งแกร่งที่ ~80% ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 (75% ใน 2Q62) และ ARR ลดลงเล็กน้อยจาก 1Q66 โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยฤดูกาล สำหรับปี 2566 ERW ยังคงเป้าอัตราการเข้าพักไว้ที่ 75-80% (จาก 58% ในปี 2565) และตั้งเป้า ARR เติบโตมากกว่า 20% ซึ่งจะส่งผลทำให้ RevPar เติบโตมากกว่า 40% ในปี 2566 การขยายโรงแรมจะยังคงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN โดยในปี 2566 บริษัทวางเเผนพัฒนา HOP INN ในประเทศไทยจำนวน 15 แห่ง ซึ่งจะเปิดดำเนินงานในปี 2567-2568 และอยู่ระหว่างการพัฒนาโรงแรมในประเทศฟิลิปปินส์อีก 3 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินงานได้ในปี 2567 นอกจากนี้ ERW ก็กำลังสำรวจโอกาสในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย
คงประมาณการ ข้อมูลเดือนเม.ย. บ่งชี้ถึงช่วงโลว์ซีซั่นที่แข็งแกร่ง เราคาดว่า ERW จะรายงานกำไรใน 2Q66 ดีขึ้นจากขาดทุนใน 2Q65 แต่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 502 ลบ. สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 3% โดยอิงกับ RevPar ที่เติบโต 45% YoY ในปี 2566 หรือสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 4% ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราอยู่ที่ 5.5 บาท/หุ้น อ้างอิง EV/EBITDA ที่ 13 เท่า โดยใช้ EBITDA ปี 2567 แล้วคิดลดกลับมายังสิ้นปี 2566
ปัจจัยเสี่ยง คือ 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ 2) ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม ERW230517_T