Keyword
Company Update

บทวิเคราะห์รายบริษัท : GGC

13 Feb 23 12:00 AM
GGC-20240911201435
สรุปสาระสำคัญ

GGC รายงานขาดสุทธิ 25 ลบ. ใน 4Q65 แย่กว่าคาด แม้ดีกว่าขาดทุนสุทธิ 88 ลบ. ใน 4Q64 โดยมีสาเหตุมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของทั้งธุรกิจเมทิลเอสเทอร์และธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ลดลง ทั้งนี้แม้ว่ารัฐบาลได้เพิ่มส่วนผสมภาคบังคับของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในตลาดภายในประเทศจาก 5% เป็น 7% แล้ว แต่ adjusted margin ของธุรกิจ ME ติดลบ เพราะส่วนต่างราคากลีเซอรีนลดลง แม้กำไรสุทธิลดลงใน 2H65 แต่กำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 189% สู่ 953 ลบ. เพราะ product-to-feed margin สูงขึ้นและมีกำไรพิเศษ เทียบกับขาดทุนพิเศษจากการตั้งสำรองสำหรับการฟ้องร้องในปี 2564 เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนตัวลงในปี 2566 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์จะกลับคืนสู่ระดับปกติ แม้ว่าอัตราการใช้กำลังการผลิต ME จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้นราคาหุ้น เราจึงคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ GGC ด้วยราคาเป้าหมาย 13.40 บาท/หุ้น อ้างอิง PBV 1.3 เท่า (ปี 2566)

GGC รายงานขาดสุทธิ 25 ลบ. ใน 4Q65 แย่กว่าคาด แม้ดีกว่าขาดทุนสุทธิ 88 ลบ. ใน 4Q64 โดยมีสาเหตุมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของทั้งธุรกิจเมทิลเอสเทอร์และธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ลดลง ทั้งนี้แม้ว่ารัฐบาลได้เพิ่มส่วนผสมภาคบังคับของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในตลาดภายในประเทศจาก 5% เป็น 7% แล้ว แต่ adjusted margin ของธุรกิจ ME ติดลบ เพราะส่วนต่างราคากลีเซอรีนลดลง แม้กำไรสุทธิลดลงใน 2H65 แต่กำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 189% สู่ 953 ลบ. เพราะ product-to-feed margin สูงขึ้นและมีกำไรพิเศษ เทียบกับขาดทุนพิเศษจากการตั้งสำรองสำหรับการฟ้องร้องในปี 2564 เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนตัวลงในปี 2566 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์จะกลับคืนสู่ระดับปกติ แม้ว่าอัตราการใช้กำลังการผลิต ME จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ มากระตุ้นราคาหุ้น เราจึงคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ GGC ด้วยราคาเป้าหมาย 13.40 บาท/หุ้น อ้างอิง PBV 1.3 เท่า (ปี 2566)

ธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ (ไบโอดีเซล) ได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคาที่ลดลง QoQ แม้ว่าปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 3% QoQ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลตามฤดูกาลและการเพิ่มส่วนผสมภาคบังคับของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก 5% เป็น 7% แต่อัตราการใช้กำลังการผลิต ME ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 58% แม้ว่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ <50% อันเป็นผลมาจากความต้องการผลิตเพื่อใช้เอง (captive demand) สำหรับโรงกลั่นน้ำมันภายใต้กลุ่ม PTT ธุรกิจ ME สร้าง EBITDA ติดลบ 207 ลบ. ใน 4Q65 ดีกว่า -227 ลบ. ใน 3Q65 เล็กน้อย เนื่องจากมีกำไรจากสินค้าคงเหลืออยู่บ้าง ในขณะที่ adjusted EBITDA margin อ่อนแอลงมาก QoQ สู่ -7.3% ใน 4Q65 เทียบกับ +0.4% ใน 3Q65 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ME และผลิตภัณฑ์พลอยได้ คือ กลีเซอรีนบริสุทธิ์ (8% ของปริมาณการขาย) อ่อนแอลง โดยปกติแล้วกลีเซอรีนบริสุทธิ์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน เนื่องจากการแข่งขันในตลาด ME สร้างแรงกดดันต่อมาร์จิ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลีเซอรีนบริสุทธิ์ใน 4Q65 ลดลง 52% YoY และ 16% QoQ สู่ US$293/ตัน เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ US$361/ตัน

กำไรจากธุรกิจ FA ลดลง เพราะปริมาณการขายลดลง EBITDA ของธุรกิจ FA ลดลง 3% YoY และ 50% QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดผลิตตามแผนเป็นเวลา 20 วันเพื่อเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยา ส่งผลทำให้ปริมาณการขายลดลง 23% QoQ สู่ 21,400 ตัน ใน 4Q65 (ทรงตัว QoQ) แม้ว่าไตรมาสสุดท้ายควรจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดเพราะเป็นเทศกาลวันหยุดสิ้นปี นอกจากนี้ธุรกิจ FA ยังรับรู้ขาดทุนจากสินค้าคงเหลือจำนวน 79 ลบ. โดยมีสาเหตุมาจากราคาผลิตภัณฑ์ CPKO และ FA ที่ลดลงอีกด้วย

คาดกำไรปี 2566 อ่อนตัวลง เราคาดว่ากำไรจะลดลงในปี 2566 โดยกำไรสุทธิจะลดลง 14% YoY เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ B100 และ FA จะกลับคืนสู่ระดับปกติ สต็อก CPO ล่าสุดในประเทศไทยที่มากกว่า 300,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 168,000 ตันในเดือนมิ.ย. 2565 บ่งชี้ว่าราคา CPO และไบโอดีเซลจะยังคงต่ำกว่า 1H65 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาไบโอดีเซลเฉลี่ยพุ่งขึ้นสู่ 55 บาท/ลิตร เทียบกับราคาปัจจุบันที่ 30± บาท/ลิตร upside ต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของเราจะมาจากธุรกิจเอทานอล ซึ่งจะเริ่มดำเนินการใน 1Q66 เลื่อนมาจากต้นปี 2565 เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรในช่วงแรกจะอยู่ในระดับต่ำ

คงราคาเป้าหมายไว้ที่ 13.40 บาท/หุ้น ราคาเป้าหมายที่เราประเมินได้สำหรับ GGC อิงกับ PBV 1.3 เท่า (ปี 2566) ซึ่งเป็น PBV เฉลี่ยตั้งแต่บริษัทจดทะเบียนซื้อขายใน SET สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำที่ 0.3 เท่า จะเปิดโอกาสให้ GGC ขยายธุรกิจสู่ธุรกิจเคมีชีวภาพ ในขณะที่ยังคงการจ่ายเงินปันผลสูงกว่าปี 2564 GGC ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2565 อีก 0.25 บาท/หุ้น ส่งผลทำให้เงินปันผลปี 2565 อยู่ที่ 0.5 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 43% จากปี 2564

ปัจจัยเสี่ยง ราคา CPO และ CPKO ที่ผันผวนอาจส่งผลทำให้เกิดขาดทุนสต็อกและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ลดลง นโยบายที่ไม่แน่นอนของรัฐบาลเกี่ยวกับส่วนผสมภาคบังคับของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสำหรับตลาดในประเทศอาจส่งผลกระทบด้านลบต่ออุปสงค์ ME ในระยะกลาง 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5