Keyword
Company Update

KEX – 2Q67: ผลประกอบการอ่อนแอและแนวโน้มท้าทาย – UNDERPERFORM (ราคาเป้าหมาย 1.70 บาท)

16 Aug 24 9:00 AM
Slide24217f62dd-ecbd-43d4-bee8-297a0c5ee1df-20240912050501

KEX รายงานขาดทุนปกติ 1.1 พันลบ. ใน 2Q67 แย่กว่าขาดทุนปกติ 968 ลบ. ใน 1Q67 และใกล้เคียงกับขาดทุนปกติ 1.1 พันลบ. ใน 2Q66 เรามองว่าโมเมนตัมอ่อนแอกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการขาดทุนปกติปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 พันลบ. (จากเดิมที่คาดขาดทุนปกติ 3.3 พันลบ.) หลังจากปรับสมมติฐานการเติบโตของปริมาณการจัดส่งพัสดุลดลง เราคงคำแนะนำ UNDERPERFORM สำหรับ KEX และปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF (WACC 7.8% และ LTG 1.5%) ลดลงจาก 3.9 บาท/หุ้น สู่ 1.7 บาท/หุ้น เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรลดลงและจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุน (RO) ราคาหุ้นจะ underperform ตลาดอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอและยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะพลิกกลับมามีกำไร

ขาดทุนปกติ 2Q67 เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY  KEX รายงานขาดทุนสุทธิ 1.1 พันลบ. ใน 2Q67 เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.2 พันลบ. ใน 1Q67 และขาดทุนสุทธิ  1.1 พันลบ. ใน 1Q66 โดยใน 1Q67 KEX ได้บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจำนวน 220 ลบ. จากการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวร หากหักรายการนี้ออกไป พบว่าขาดทุนปกติใน 2Q67 เพิ่มขึ้น QoQ ขาดทุนปกติ 1H67 สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เราคาดการณ์ขาดทุนปกติปี 2567 ที่ 3.3 พันลบ.

ปริมาณการจัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY  KEX กล่าวว่าปริมาณการจัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้น 5% QoQ แต่ลดลง 11% YoY ใน 2Q67 การปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการในกลุ่ม C2C และกลุ่ม SKA จากฤดูผลไม้ ในขณะที่การปรับตัวลดลง YoY เกิดจากการลดลงของผู้ใช้บริการในทุกกลุ่มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้บริการที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น โดยใน 2Q67 สัดส่วนรายได้จากผู้ใช้บริการประเภท C2C อยู่ที่ 47% (จาก 46% ใน 1Q67), SKA อยู่ที่ 39% (จาก 40%) และ CKA อยู่ที่ 10% (จาก 11%)

ภาพรวมการประชุมเป็นลบ KEX จัดประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการ 2Q67 ใน 2H67 KEX จะบันทึกต้นทุนการรีแบรนด์ เนื่องจากบริษัทจะดำเนินการรีแบรนด์จาก Kerry Express เป็น “KEX” ในระหว่างเดือนส.ค. 2567 ถึงเดือนก.พ. 2568 โดยผู้บริหารยังไม่ได้ระบุต้นทุนที่ชัดเจน นอกจากนี้การเข้ามาของ Temu ในประเทศไทย (แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ) จะสร้างแรงกดดันต่อมาร์  จิ้นของกลุ่ม SKA โดยผู้บริหารมองว่า Temu จะสร้างผลกระทบเชิงลบในระยะสั้นต่ออุตสาหกรรมการจัดส่งพัสดุ เนื่องจากจะทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และะจะกดดันให้ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุต้องปรับราคาค่าขนส่งลดลง

ปรับประมาณการผลประกอบการและราคาเป้าหมายลดลง เนื่องจากเราคาดว่าขาดทุนปกติใน 3Q67 จะเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY จากต้นทุนการรีแบรนด์และแรงกดดันมาร์จิ้นต่อกลุ่ม SKA ดังนั้นเราจึงปรับสมมติฐานการเติบโตของปริมาณการจัดส่งพัสดุลดลงจากทรงตัว เป็น -15% ซึ่งส่งผลทำให้เราปรับประมาณการขาดทุนปกติปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 3.3 พันลบ. เป็น 4.5 พันลบ.  นอกจากนี้เรายังปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ลดลงสู่ 1.7 บาท/หุ้น (จาก 3.9 บาท) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการผลประกอบการลดลงและหุ้นใหม่จากการเพิ่มทุน (RO) โดยที่เราใช้สมมติฐานว่าจะมีแค่ SF ที่จะจองซื้อ RO เนื่องจากราคา RO สูงกว่าราคาตลาด ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นทั้งหมดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,505 ล้านหุ้น จาก 1,743 ล้านหุ้น ในขณะที่เราไม่ได้นำเงินจากการเพิ่มทุนมาประเมินมูลค่าหุ้น เนื่องจากเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล แรงกดดันด้านราคาจากอีคอมเมิร์ซสืบเนื่องมาจากการเข้ามาของ TEMU ในประเทศไทย ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการแบรนด์ และความปลอดภัยด้านไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  KEX240816_T

KEX reported a core loss of Bt1.1bn in 2Q24, worse than the core losses of Bt968mn in 1Q24 and Bt1.1bn in 2Q23. It is not moving as well as we had expected and thus raise our 2024F core loss to Bt4.5bn (from Bt3.3bn) after cutting our parcel volume growth assumptions. We maintain our UNDERPERFORM rating, cutting our DCF-based TP to Bt1.7/sh from Bt3.9 (7.8% WACC and 1.5% LTG) to reflect earnings cut and factoring in a higher number of shares from the RO. Share price will continue to underperform the market in view of its weak earnings outlook and unclear signs of a turn back around to a profit.

2Q24 core loss higher QoQ and YoY. KEX reported a net loss of Bt1.1bn in 2Q24 from losses of Bt1.2bn in 1Q24 and Bt1.1bn in 2Q23. In terms of core loss, in 1Q24, KEX booked a Bt220mn one-time expense from an accounting change and provision for impairment of fixed assets. Removing this uncovers a higher core loss in 2Q24 QoQ. Core losses in 1H24 exceeded our estimates. We had anticipated a 2024F core loss of Bt3.3bn.

Parcel volume up QoQ, but down YoY. KEX said parcel volume grew 5% QoQ, but fell 11% YoY in 2Q24. The QoQ increase was due to an increase in volume in the C2C and SKA segments during the peak fruit season while the YoY drop was due to a reduction in all customer segments as part of its shift in strategy to dilute dependence on e-commerce platforms and focus more on high yield customers. In 2Q24, revenue contribution from C2C was 47% (from 46% in 1Q24), SKA at 39% (from 40%) and CKA at 10% (from 11%).

Negative tone at the meeting. KEX hosted an analyst meeting post 2Q24 results. In 2H24, KEX will be booking rebranding costs as it rebrands to “KEX” from Kerry Express during Aug 2024 to Feb 2025; exact cost was not provided. Margin for the SKA unit will also be pressured by the arrival of Temu (an e-commerce platform). According to KEX, Temu will have a near-term negative impact on the parcel delivery industry as a whole by generating higher competition on e-commerce platforms which will lead to lower pricing for parcel delivery operators.

Cut our 2024F and TP. Since we expect 3Q24F core loss to be higher QoQ and YoY due to rebranding cost and margin pressure on the SKA unit, we cut our parcel volume growth assumption to -15% from flat, which raises our 2024F core loss to Bt4.5bn from Bt3.3bn. This plus the new shares from the RO lead us to slash our DCF-based TP to Bt1.7/sh from Bt3.9. We assume only SF will subscribe to the RO since it is priced above market price. This would bring total shares to 3,505mn from 1,743mn. We also did not factor any cash proceeds into our valuation as they will be used primarily as working capital.

Risks and concerns. Pricing pressure from e-commerce due to the coming of Temu in Thailand. Key ESG risks are brand management and cybersecurity and data privacy.

Click here to read and/or download file  KEX240816_E (1)
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5