Keyword
Company Update

KKP – ปรับลดเป้าหมายปี 2566 – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 60 บาท)

26 Jul 23 12:23 PM
26072023-50-20240911150456
kkp

KKP เปิดเผยในที่ประชุมนักวิเคราะห์ว่าธนาคารได้ปรับเพิ่มเป้า credit cost และปรับลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อสำหรับปี 2566 โดยธนาคารคาดว่า NPL จะทำจุดสูงสุดใน 3Q66-4Q66 เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ของ KKP ลดลงอีก 12% เนื่องจากเราปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น 30 bps และปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลง 2 ppt เพื่อสะท้อนเป้าหมายใหม่ของธนาคาร เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 67 บาท สู่ 60 บาท

ปรับเพิ่มเป้า credit cost ปี 2566 KKP ปรับเป้า credit cost ปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 2% สู่ 2.6-2.8% (เทียบกับ 2.7% สำหรับ 1H66) ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราที่ 2.5% นอกจากนี้ธนาคารยังปรับเป้าอัตราส่วน NPL ปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 3.1% สู่ 3.5% (เทียบกับ 3.6% ณ 2Q66) ด้วย โดยคาดว่า NPL จะทำจุดสูงสุดในช่วงปลาย 3Q66 หรือต้น 4Q66 NPL ที่เพิ่มขึ้นใน 2Q66 ส่วนใหญ่เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อ (ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองที่ปล่อยไปในปี 2565) และการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปล่อยให้กับบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจในเมียนมาและมีปัญหาเกี่ยวกับการนำเงินรายได้กลับเข้าประเทศ โครงการริเริ่มในการจัดการปัญหา NPL ที่เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อ ได้แก่: 1) การใช้นโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น พร้อมกับคัดเลือกลูกค้าและดีลเลอร์มากขึ้น 2) การปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุกสำหรับสินเชื่อ stage 2 และ 3) การจัดตั้งแผนกใหม่เพื่อดูแลการขายรถยึดเพื่อลดขาดทุนจากการขาย ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการ credit cost ปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 2.5% สู่ 2.8%

ปรับลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 KKP ปรับเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ลดลงจาก 13% สู่ 10% (เทียบกับ 5.7% YTD) เพื่อสะท้อนนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ลดลงจาก 12% สู่ 10%

คาดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลง HoH KKP ยังคงเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (loan spread) ปี 2566 ไว้ที่ 5% (เทียบกับ 5.3% ใน 1H66) ซึ่งบ่งชี้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะลดลง HoH ใน 2H66 KKP คาดว่าผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อจะได้รับแรงกดดันจากนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนสินเชื่อมามีสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนต่ำเพิ่มมากขึ้น เราคาดว่า NIM ปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 14 bps สู่ 4.5% (เทียบกับ 4.55% ใน 2Q66 และ 4.5% ใน 1H66) สะท้อนถึงการปรับตัวลดลง QoQ เล็กน้อยใน 3Q66 และ 4Q66

ปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลดลงอีก เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 ของ KKP ลดลงอีก 12% (หลังจากปรับลง 7% หลังประกาศผลประกอบการ 2Q66) เนื่องจากเราปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น 30 bps และปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลง 2 ppt เพื่อสะท้อนเป้าหมายใหม่ของธนาคาร ดังนั้นเราคาดว่ากำไรปี 2566 จะลดลง 15% โดยกำไร 1H66 คิดเป็น 54% ของประมาณการกำไรปี 2566 ที่เราปรับใหม่ เราคาดว่ากำไร 3Q66 จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ (ECL ยังสูง และรายได้ทรงตัว) แต่ลดลง YoY (ECL สูงขึ้น)

คงเรทติ้ง NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลง เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 67 บาท สู่ 60 บาท (PBV ปี 2567 ที่ 0.8 เท่า)

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และ 3) non-NII ได้รับแรงกดดันจากตลาดทุนที่ผันผวนและแนวโน้มที่ ธปท.จะใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมที่เข้มงวดมากขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  KKP230726_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5