กำไรสุทธิ 2Q67 ของ KKP ออกมาต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้อย่างมากจาก ECL โดย ผลประกอบการสะท้อนถึงการตั้งสำรอง (credit cost) เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนสัญญาณเชิงลบจากคุณภาพสินทรัพย์ สินเชื่อที่หดตัวลง NIM ที่แคบลง non-NII ที่อ่อนแอลง และ opex ที่ตึงตัว หลังจากผลประกอบการออกมาน่าผิดหวังและการประชุมนักวิเคราะห์ เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 19% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อ NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 28% สำหรับ 2H67 เราคาดว่ากำไรจะยังคงมีแนวโน้มชะลอตัว เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ KKP และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 45 บาท สู่ 38 บาท
1Q67: ต่ำกว่าคาดมากจาก ECL KKP รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 769 ลบ. (-49% QoQ, -45% YoY) ต่ำกว่า INVX คาด 44% และต่ำกว่า consensus คาด 37% โดยมีสาเหตุมาจาก ECL ที่สูงกว่าคาด ผลประกอบการโดยรวมอ่อนแอลงในทุกๆ ด้าน
ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น เพราะมีสัญญาณเชิงลบจากคุณภาพสินทรัพย์ NPL เพิ่มขึ้น 3% QoQ จากสินเชื่อเช่าซื้อและการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสินเชื่อ SME ขณะที่ สินเชื่อ stage 2 เพิ่มขึ้น 2% QoQ จากการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ SME ซึ่งแสดงสัญญาณเชิงลบ credit cost (รวมขาดทุนจากการขายรถยึด) เพิ่มขึ้น 80 bps QoQ สู่ 2.89% โดยมีการตั้งสำรองพิเศษ management overlay เพิ่มอีก 300 ลบ. ขาดทุนจากการขายรถยึดลดลง 27% QoQ เนื่องจากผลขาดทุนจากการขายรถยึดต่อคันลดลง KKP ปรับเป้า NPL ratio สำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 3.5-3.7% สู่ 3.9-4.1% (เทียบกับ 4% ณ 2Q67) อย่างไรก็ดี KKP ยังคงเป้า credit cost สำหรับปี 2567 ไว้ที่ 2.5-2.7% KKP ไม่มีการปล่อยสินเชื่อให้กับ EA LLR coverage อยู่ในระดับทรงตัวที่ 132% เราคงประมาณการ credit cost ปี 2567 ไว้ที่ 2.5% (-31 bps)
สินเชื่อหดตัวลง ที่ -1% QoQ, -2% YoY, และ -2% YTD โดยสินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยหดตัวลง ขณะที่สินเชื่อบรรษัทเติบโตเล็กน้อย KKP ปรับเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจาก +3% สู่ -3%
NIM แคบลง 22 bps QoQ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 12 bps QoQ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับทรงตัว QoQ KKP ปรับเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (loan spread) ปี 2567 ลดลง 20 bps สู่ 4.8% (เทียบกับ 4.9% ใน 1H67) เราปรับประมาณการ NIM ปี 2567 ลดลง 10 bps โดยปัจจุบันคาดว่า NIM จะลดลง 56 bps ในปี 2567
Non-NII ลดลง 2% QoQ (-9% YoY) เพราะกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 4% QoQ แต่ลดลง 20% YoY จากค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เราปรับประมาณการรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิปี 2567 ลดลง 10% โดยคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจะลดลง 12% จากปี 2566
Opex ลดลง 4% QoQ และ 3% YoY อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง 22 bps QoQ แต่เพิ่มขึ้น 390 bps YoY สู่ 41.73%
ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 19% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อ NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 28% กำไร 1H67 คิดเป็น 59% ของประมาณการกำไรเต็มปีที่เราปรับใหม่ สำหรับ 3Q67 และ 4Q67 เราคาดว่ากำไรจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ แต่ลดลง YoY จากแนวโน้มที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง
คงคำแนะนำ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลง เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ KKP และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 45 บาท สู่ 38 บาท (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.5 เท่า)
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง 2) ราคารถมือสองลดลง 3) ตลาดทุนผันผวน และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก KKP240723_T
|