Keyword
Company Earnings

KTC – 2Q66: กำไรตามคาด; เริ่มเห็นสัญญาณ NPL เพิ่มขึ้น – UNDERPERFORM (ราคาเป้าหมาย 44 บาท)

24 Jul 23 2:10 PM
KTC

ktc

ผลประกอบการ 2Q66 ของ KTC ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลง สินเชื่อที่เติบโตดี NIM ที่ดีขึ้น non-NII ในระดับทรงตัว และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น เรายังคงเรทติ้ง UNDERPERFORM สำหรับ KTC และปรับราคาเป้าหมายลดลงสู่ 44 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรลดลง 5% และผลกระทบจากมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง (PD) ของ ธปท.

2Q66: กำไรตามคาด KTC รายงานกำไรสุทธิ 2Q66 จำนวน 1.81 พันลบ. (-4% QoQ, -5% YoY) เป็นไปตามที่ INVX และ consensus คาด

รายการสำคัญ

  • คุณภาพสินทรัพย์: แย่กว่าคาด NPL เพิ่มขึ้น 10% QoQ และอัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 15 bps QoQ credit cost เพิ่มขึ้น 16 bps QoQ (+109 bps YoY) สู่ 5.48% LLR coverage ลดลงจาก 462% ณ 1Q66 สู่ 433% เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2566 เพิ่มขึ้น 10 bps สู่ 5.35% (+37 bps) เพื่อสะท้อน credit cost ที่ 5.35% ใน 1H66 และสัญญาณ NPL เพิ่มขึ้น
  • การเติบโตของสินเชื่อ: +2.1% QoQ, +14% YoY, +1.4% YTD เทียบกับเป้าที่บริษัทวางไว้ทั้งปีที่ +15% สินเชื่อบัตรเครดิตเติบโต 1.5% QoQ, +11.8% YoY, -1.1% YTD สินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต 3.2% QoQ, +9.6% YoY, +3.5% YTD เทียบกับเป้าที่บริษัทวางไว้ทั้งปีที่ +7% การเติบโตของสินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อชะลอตัวลงจาก 35% QoQ ใน 1Q66 สู่ 7% QoQ ใน 2Q66 เนื่องจากบริษัทได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อหลังจากเริ่มเห็นสัญญาณ NPL เพิ่มขึ้น สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มีจำนวน 1.66 พันลบ. (+118.6% YoY) ยังต่ำกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ ณ สิ้นปี 2566 ที่ 9 พันลบ. ค่อนข้างมาก เราคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ที่ 13%
  • NIM: ดีกว่าคาด โดย +48 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 57 bps QoQ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินทเพิ่มขึ้น 13 bps QoQ
  • Non-NII: +1% QoQ (+6% YoY) อ่อนแอกว่าคาด รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ในระดับทรงตัว QoQ และ +11% YoY ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 16.3% YoY ดีกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 15% หนี้สูญได้รับคืนลดลง 7% QoQ และ 10% YoY
  • อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: +144 bps QoQ, -42 bps YoY แย่กว่าคาด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 8% QoQ และ 7% YoY สูงกว่าคาด

ปรับประมาณการกำไรลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 และปี 2567 ลดลงปีละ 5% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับประมาณการ credit cost และ non-NII กำไร 1H66 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา (+4%) สำหรับ 3Q66 เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ และ YoY เนื่องจากสินเชื่อที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะถูกลดทอนไปบางส่วนโดย ECL ที่สูงขึ้น

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง (PD) ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 เป็นต้นไป ธปท.จะบังคับใช้มาตรการแก้หนี้เรื้อรัง (PD) กับสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหมุนเวียนสำหรับลูกค้าธนาคารพาณิชย์ (รวมถึง KTC) ที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน ในกรณีที่จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทจะให้ทางเลือกแก่ลูกหนี้ที่สนใจสามารถเปลี่ยนสินเชื่อหมุนเวียนมาเป็นแบบมีระยะเวลา (term loan) และคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี โดยจะกำหนดให้การผ่อนชำระสามารถปิดจบภายใน 5 ปี KTC ได้ประเมินผลกระทบว่าหากลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ทุกรายเข้าร่วมโครงการจะมีผลกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยลดลงประมาณ 18 ลบ./เดือน ผลกระทบหลังภาษีเทียบเท่ากับ 2% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2566

คงเรทติ้ง UNDERPERFORM เรายังคงเรทติ้ง UNDERPERFORM สำหรับ KTC และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 52 บาท สู่ 44 บาท (PBV ปี 2567 ที่ 2.8 เท่า) เนื่องจากเรามองว่า valuation แพง

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการปรับเพิ่มอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตจาก 5% สู่ 8% ในปี 2567 และ 10% ในปี 2568 และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก และ 3) มาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของ ธปท.

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  KTC230724_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5