Keyword
Company Update

MINT – 1Q66: ขาดทุนปกติตาม INVX คาด แต่แย่กว่าตลาดคาด – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 42 บาท)

9 May 23 1:58 PM
09052023-23-20240911221547

MINT รายงานขาดทุนสุทธิ 976 ลบ. ใน 1Q66 หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีขาดทุนปกติ 647 ลบ. ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจากขาดทุนปกติ 3.6 พันลบ. ใน 1Q65 โดยได้แรงหนุนธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารที่แข็งแกร่งขึ้น แต่แย่ลงจากกำไรปกติ 2.4 พันลบ. ใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมในยุโรป ผลประกอบการออกมาตาม INVX คาด แต่แย่กว่าตลาดคาด เพราะผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมอ่อนแอลง เราคาดว่าการดำเนินงานและผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นใน 2Q66 เนื่องจากโรงแรมในยุโรปจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เรายังคงคำแนะนำ tactical call ระยะ 3 เดือน สำหรับ MINT ไว้ที่ OUTPERFORM ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42 บาท/หุ้น (อ้างอิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP)

1Q66: ขาดทุนปกติลดลง YoY MINT รายงานขาดทุนสุทธิ 976 ลบ. ใน 1Q66 (+YoY, -QoQ) หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีขาดทุนปกติ 647 ลบ. ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจากขาดทุนปกติ 3.6 พันลบ. ใน 1Q65 โดยได้แรงหนุนธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารที่แข็งแกร่งขึ้น แต่แย่ลงจากกำไรปกติ 2.4 พันลบ. ใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมในยุโรป ผลประกอบการออกมาตาม INVX คาด แต่แย่กว่าขาดทุนที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 302 ลบ. จากผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมที่อ่อนแอ

รายการที่สำคัญ

  • ธุรกิจโรงแรม (70% ของรายได้): NH Hotel Group (NHH, กิจการหลักในยุโรปของ MINT) รายงานขาดทุนปกติ 40 ล้านยูโรใน 1Q66 (~1.4 พันลบ.) ปรับตัวดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 80 ล้านยูโรใน 1Q65 แต่แย่ลงจากกำไรปกติ 44 ล้านยูโรใน 4Q65 อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 60% ใน 1Q66 (เทียบกับ 40% ใน 1Q65 และ 65% ใน 4Q65) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) แข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 115 ยูโร/คืน (-10% QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 24%) ส่งผลทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) อยู่ที่ 67 ยูโร/คืน (-20% QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 9%) MINT เปิดเผยว่า RevPar ของโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว
  • ธุรกิจร้านอาหาร (23% ของรายได้): SSS โดยรวมเติบโต 11.4% ใน 1Q66 (เทียบกับ +4.2% ใน 1Q65 และ +4% ใน 4Q65) ธุรกิจร้านอาหารในทุกประเทศมีการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดย SSS เติบโต 5.8% ในประเทศไทย 24% ในออสเตรเลีย และ 15% ในจีน
  • ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% YoY โดยมีสาเหตุมาจากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ลดลง 3% QoQ จากสถานะหนี้สินที่ลดลง อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ที่ 1.18 เท่า ลดลงจาก 1.43 เท่า (30 ธ.ค. 2565) โดยเกิดจากฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นอันเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นและการออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน

คาดการดำเนินงานดีขึ้นใน 2Q66 เรายังคงประมาณการผลประกอบการของเราไว้เหมือนเดิม และคาดว่า MINT จะพลิกกลับมามีกำไรใน 2Q66 (+YoY, +QoQ) สำหรับ NHH อัตราการเข้าพักในเดือนเม.ย. อยู่ที่ระดับสูงกว่า 70% โดยได้รับการสนับสนุนจากช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางเพื่อพักผ่อนและการกลับมาเดินทางเพื่อธุรกิจ สำหรับธุรกิจร้านอาหาร MINT รายงานว่าการดำเนินงานในประเทศไทยแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และในจีนคาดว่าจะมีรายได้ที่แข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น

ปัจจัยเสี่ยง 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ 2) ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  MINT230509_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5