กำไรสุทธิ 1Q67 ของ MTC ออกมาดีเกินคาดเล็กน้อย เพราะ ECL ต่ำกว่าคาด โดยผลประกอบการสะท้อนถึง credit cost และ NPL ไหลเข้าที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อที่ดี NIM ที่ลดลง non-NII ที่เพิ่มขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้นตามฤดูกาล เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 5% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost ลดลง เพื่อสะท้อน NPL ไหลเข้าที่ลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะเติบโต 22% เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ MTC โดยปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 44 บาท สู่ 50 บาท valuation ที่ไม่น่าสนใจทำให้เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ MTC และแนะนำให้เข้าสะสมหุ้น MTC ในราคาที่ต่ำกว่านี้ 1Q67: ดีเกินคาดเล็กน้อยจาก credit cost กำไรสุทธิ 1Q67 เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 30% YoY สู่ 1.39 พันลบ. สูงกว่า INVX คาด 5% และสูงกว่า consensus คาด 4% เพราะ credit cost ต่ำกว่าคาด รายการที่สำคัญ: คุณภาพสินทรัพย์: NPL ลดลง 7% QoQ ใน 1Q67 ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดหนี้สูญ ถ้านำยอดตัดหนี้สูญบวกกลับเข้ามา พบว่า NPL เพิ่มขึ้น 12% QoQ (เทียบกับ 23% QoQ ใน 4Q66) ซึ่งบ่งชี้ว่า NPL ไหลเข้าลดลง QoQ credit cost ลดลง 51 bps QoQ (-35 bps YoY) สู่ 3.16% LLR coverage เพิ่มขึ้นสู่ 131% จาก 116% ณ 4Q66 เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 ลดลง 25 bps สู่ 3.25% (-47 bps) การเติบโตของสินเชื่อ: +3% QoQ, +17% YoY ต่ำกว่าประมาณการปี 2567 ของเราที่ 19% เล็กน้อย NIM: -37 bps QoQ (-42 bps YoY) เป็นไปตามคาด อัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อลดลง 37 bps QoQ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 4 bps QoQ Non-NII: +3% QoQ (+19% YoY) จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: +210 bps QoQ (-136 bps YoY) สู่ 47.82% เนื่องจาก opex เพิ่มขึ้น 5% QoQ (+12% YoY) ตามฤดูกาล ปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กำไร 1Q67 คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรปี 2567 ของเรา เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 5% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost ลดลงเพื่อสะท้อน NPL ไหลเข้าที่ลดลง โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะเติบโต 22% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 19% NIM ที่ลดลง 50 bps credit cost ที่ลดลง 47 bps และการเติบโตของ opex ที่ชะลอตัวลงจากการขยายสาขาช้าลง คงคำแนะนำ NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ MTC โดยปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 44 บาท สู่ 50 บาท อ้างอิง PBV 2.85 เท่า หรือ PE 18 เท่า สำหรับปี 2567 ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึงและช้ากว่าคาด 2) ความเสี่ยงด้าน credit cost จากราคารถมือสองที่ลดลง 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคาร 4) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และ 5) ความเสี่ยง ESG จาก market conduct | |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก MTC240508_T
|