PSH รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 จำนวน 123 ลบ. (-89.5% YoY และ -68.5% QoQ) ต่ำกว่า consensus คาด 62% เพราะได้รับแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น ส่งผลทำให้กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 2.2 พันลบ. (-20.5%) สำหรับปี 2567 PSH ตั้งเป้าการเติบโตที่สูงขึ้นทั้งยอด presales (+46%) และการเปิดตัวโครงการใหม่ (+105%) ซึ่งเรามองว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย เนื่องจากการแข่งขันเริ่มสูงขึ้นและความต้องการซื้อมีจำกัดในบางกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ tactical all สำหรับ PSH ไว้ที่ UNDERPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 9.50 บาท/หุ้น (จาก 10 บาท) อ้างอิง PE เฉลี่ย (16 ปี) ที่ 9.9 เท่า เงินปันผลงวด 2H66 อยู่ที่ 0.65 บาท/หุ้น กำไรสุทธิ 4Q66 ลดลงแรง 89.5% YoY และ 68.5% QoQ สู่ 123 ลบ. ต่ำกว่า consensus คาด 62% เพราะได้รับแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.8% จากการเร่งระบายสินค้าคงเหลือ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงพยาบาลอยู่ที่ 15% รายได้อยู่ที่ 5.8 พันลบ. (-43.7% YoY แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.5% QoQ) โดย 92% เกิดจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้รับการสนับสนับสนุนจากการขายสินค้าคงเหลือ และ 8% เกิดจากธุรกิจโรงพยาบาล อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายอยู่ที่ 27.3% สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการจัดโปรโมชั่นขายสินค้าคงเหลือ ส่งผลทำให้ EBIT ติดลบใน 4Q66 กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 2.2 พันลบ. (-20.5%) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 9%ปี 2567 ตั้งเป้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว และธุรกิจโรงพยาบาลเติบโตสูง PSH ตั้งเป้ายอด presales ปี 2567 ที่ 2.7 หมื่นลบ. (+46%) โดย 75% จากโครงการแนวราบ และ 25% เกิดจากคอนโด สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ในขณะที่บริษัทตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่ารวม 2.9 หมื่นลบ. (+105%) โดย 84% หรือ 2.5 หมื่นลบ. เป็นโครงการแนวราบ (มูลค่าเพิ่มขึ้น 77%) และ 16% เป็นคอนโด (มูลค่าลดลง 56%) โดยในปี 2567 PSH จะมุ่งเน้นโครงการระดับกลางถึงบนมากขึ้น (ราคา 3-7 ลบ./ยูนิต และสูงกว่า) เพื่อไม่ให้มีการยกเลิกและการปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูง สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล PSH ตั้งเป้ารายได้เติบโต 27% สู่ 2.3 พันลบ. เรามองว่าเป้าหมายสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากยอด presales ระดับสูงจะได้รับการสนับสนุนจากมูลค่าการเปิดตัวโครงการระดับกลางถึงบน (การแข่งขันสูง) ที่สูงขึ้น ทั้งนี้หลังจากลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ ORI เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการ wellness รวม 3 โครงการ มูลค่า 8.8 พันลบ. PSH คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าและเปิดตัวได้ในปี 2568ปรับประมาณการปี 2567 ลดลงเล็กน้อย ปัจจุบัน PSH มี backlog มูลค่า 4.46 พันลบ. (68% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 และ 32% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568) โดยมีสินค้าคงเหลือที่ยังไม่ได้ขายมูลค่า 1.0 หมื่นลบ. (คอนโด 42% และโครงการแนวราบ 58%) ดังนั้น PSH จะยังคงใช้กลยุทธ์ราคาและการจัดโปรโมชั่นเพื่อระบายสินค้าคงเหลือคอนโดในปี 2567 ส่งผลทำให้เราปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ลดลงจาก 31% สู่ 30.5% แต่ยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.77 หมื่นลบ. (+14.5%) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลงจาก 2.16 พันลบ. สู่ 2 พันลบ. (-7%) เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลจะคิดเป็นสัดส่วน 8% ของรายได้รวมปัจจัยเสี่ยงและความกังวล 1) อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง/ระดับล่าง 2) การแข่งขันในตลาดคอนโดพร้อมอยู่ (RTM) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายตั้งเป้าเร่งระบายสินคงเหลือคงคำแนะนำ UNDERPERFORM แม้ว่าโครงการลงทุนและธุรกิจโรงพยาบาลของ PSH จะอยู่ในช่วงการเติบโตซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในปี 2567 แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทจะฟื้นตัวช้าลง ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ PSH ไว้ที่ UNDERPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 9.50 บาท/หุ้น (จาก 10 บาท) อ้างอิง PER เฉลี่ย (16 ปี) ที่ 9.9 เท่า เงินปันผลงวด 2H66 อยู่ที่ 0.65 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 95% (สูงสุดเป็นประวัติการณ์) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 1 มี.ค. 2567 | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก PSH240220_T
|