Keyword
Company Update

SAWAD – 4Q66: credit cost แย่กว่าคาด – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 45 บาท)

29 Feb 24 9:00 AM
THUMNAIL-20-(8)-20240911222020

กำไรสุทธิ 4Q66 ของ SAWAD ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจาก ECL โดยผลประกอบการสะท้อนถึง credit cost ที่ปรับตัวขึ้นมากเนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์แย่ลง การเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง NIM ที่ลดลง และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost เราคาดว่ากำไรปี 2567 จะอยู่ในระดับทรงตัว แม้ valuation ไม่แพงที่ PE 11 เท่า หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง 35% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แต่เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SAWAD และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 47 บาท สู่ 45 บาท เพราะมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์

4Q66: กำไรต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจาก ECL กำไรสุทธิ 4Q66 ของ SAWAD ลดลง 9% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 4% YoY สู่ 1.27 พันลบ. ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ 6% แต่เป็นไปตามที่ consensus คาด กำไรที่ต่ำกว่าคาดเกิดจาก ECL

รายการที่สำคัญใน 4Q66:

คุณภาพสินทรัพย์: NPL เพิ่มขึ้น 19% QoQ (+31% ถ้าเรานำยอดตัดหนี้สูญบวกกลับเข้ามา) โดยอัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 36 bps QoQ สู่ 3.09% สินเชื่อ stage 2 เพิ่มขึ้น 13% QoQ credit cost แย่กว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 140 bps QoQ สู่ 2.81% ใน 4Q66 LLR coverage เพิ่มขึ้นสู่ 61% จาก 58% ณ 3Q66

การเติบโตของสินเชื่อ: +5% QoQ, +76% YoY (จากการรวมงบการเงินของ FM)

NIM: -132 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อลดลง 124 bps QoQ (ไม่มีรายได้พิเศษ 250 ลบ. เหมือนไตรมาสก่อนหน้า) และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 14 bps QoQ

Non-NII: +27% QoQ, -15% YoY (เนื่องจากไม่มีการรับรู้ค่าบริการจาก FM อีกต่อไป)

อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -366 bps QoQ (+98 bps YoY) เนื่องจาก opex ลดลง 7% QoQ

ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% เพื่อสะท้อน credit cost ที่สูงกว่าคาด โดยปัจจุบันเราคาดว่า SAWAD จะรายงานกำไรในระดับทรงตัวในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 20% credit cost ที่เพิ่มขึ้น 68 bps สู่ 3% และ NIM ที่ลดลง 119 bps (ไม่มีรายได้พิเศษ 250 ลบ. เกิดขึ้นอีก และผลตอบแทนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลงหลังจากมีการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ย 23% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือนม.ค. 2566)

คงคำแนะนำ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลง จาก 47 บาท สู่ 45 บาท (อ้างอิง PBV 1.5 เท่า หรือ PE 12.1 เท่า สำหรับปี 2567) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง และ ESG discount จากกรณีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับ market conduct

ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึงและราคารถมือสองที่ลดลง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคาร 4) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และ 5) ความเสี่ยง ESG จากคดีฟ้องร้องศาล

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SAWAD240229_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5