กำไรสุทธิ 2Q67 ของ SAWAD ออกมาตามที่เราคาดการณ์ โดยมีการเติบโตของสินเชื่อต่ำกว่าคาด แต่ opex ต่ำกว่าคาด ผลประกอบการสะท้อนถึง NPL และสินเชื่อ stage 2 ที่สูงขึ้น credit cost ที่สูงขึ้น สินเชื่อในระดับทรงตัว QoQ (เซอร์ไพร้ส์เชิงลบ) NIM ที่ดีขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง QoQ ดีกว่าคาด เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อและ credit cost เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SAWAD และปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 43 บาท สู่ 32 บาท
2Q67: กำไรตามคาด กำไรสุทธิ 2Q67 ของ SAWAD อยู่ในระดับทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 10% YoY สู่ 1.27 พันลบ. เป็นไปตามที่ INVX และ consensus คาด โดยมีการเติบโตของสินเชื่อต่ำกว่าคาด แต่ opex ต่ำกว่าคาด
รายการที่สำคัญใน 2Q67:
1. คุณภาพสินทรัพย์: NPL เพิ่มขึ้น 5% QoQ (+16% ถ้าเรานำยอดตัดหนี้สูญบวกกลับเข้ามา เทียบกับ +16% QoQ ใน 1Q67) โดยอัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 16 bps QoQ สู่ 3.4% ซึ่งบ่งชี้ถึง NPL เกิดใหม่ในระดับทรงตัว สินเชื่อ stage 2 เพิ่มขึ้น 16% QoQ credit cost เพิ่มขึ้น 16 bps QoQ สู่ 2.18% ใน 2Q67 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย LLR coverage เพิ่มขึ้นสู่ 66% จาก 63% ณ 1Q67 เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 เพิ่มขึ้น 5 bps สู่ 2.25% (-7 bps)
2. การเติบโตของสินเชื่อ: 0% QoQ, +14% YoY ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก เราปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจาก 19% สู่ 10%
3. NIM: +11 bps QoQ โดยอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อ +10 bps QoQ และต้นทุนทางการเงิน +1 bps QoQ
4. Non-NII: -19% QoQ, -30% YoY
5. อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -262 bps QoQ (+581 bps YoY) สู่ 51.28% สะท้อนถึงขาดทุนรถยึดที่ลดลงและ opex ที่ตึงตัวขึ้น โดย opex ลดลง 7% QoQ (+31% YoY)
ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 7% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อลดลงและปรับสมมติฐาน credit cost เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรจะอยู่ในระดับทรงตัว (-8% สำหรับ EPS) ในปี 2567 กำไร 1H67 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เราคาดว่ากำไรจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย YoY ใน 3Q67 และ 4Q67 โดยเกิดจาก credit cost ที่สูงขึ้น การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวลง YoY NIM ที่ดีขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง
คงคำแนะนำ NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลง สู่ 32 บาท จาก 43 บาท โดยอิงกับ PBV 1.3 เท่า หรือ PE ปี 2567 ที่ 9.5 เท่า ทั้งนี้ valuation ของเราคำนึงถึงความเสี่ยงด้าน ESG จากคดีฟ้องร้องศาลและการสอบสวนของ DSI
ปัจจัยเสี่ยง 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึงและราคารถมือสองที่ลดลง 2) ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคาร 4) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และ 5) ความเสี่ยง ESG จากคดีฟ้องร้องศาลและ market conduct
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SAWAD240815_T 1