กำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 8.1 พันลบ. -18.7% YoY และ -51.1% QoQ สูงกว่า INVX และ consensus คาดอย่างมาก โดยเกิดจากกําไรพิเศษเกี่ยวกับการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทย่อย กำไรปกติ 2Q66 เติบโต 16% QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (ส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์สูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบและถ่านหินที่ลดลงสำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์) ทั้งนี้หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงเมื่อไม่นานนี้และแนวโน้มกำไรระยะสั้นปรับตัวดีขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ SCC ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ปรับใหม่เป็น 357 บาท
กำไรสุทธิ 2Q66 แข็งแกร่งที่ 8.1 พันลบ. สูงกว่า INVX คาด 75% และสูงกว่า consensus คาด 61% โดยเกิดจากกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 2.8 พันลบ. หากตัดรายการนี้ออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 5.2 พันลบ. เป็นไปตามที่เราคาด รายการพิเศษใน 2Q66 คือ กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทย่อย 2.86 พันลบ. และขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 1.84 พันลบ.
กำไรปกติ 2Q66 เพิ่มขึ้น 15.5% QoQ โดยเกิดจาก: 1) ธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น (ส่วนต่างราคาโพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) อยู่ที่ US$443/ตัน ใน 2Q66 เทียบกับ US$396/ตัน ใน 1Q66) และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 7.0% QoQ หลังจากกลับมาเดินเครื่องโรงงาน ROC อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโอเลฟินส์ปรับเพิ่มขึ้นจาก 75-80% ใน 1Q66 สู่ 80-85% ใน 2Q66 2) กำไรของ SCGP ที่เติบโต 21.7% QoQ เพราะต้นทุนลดลง และ 3) รายได้เงินปันผลงวดครึ่งปีจาก Toyota & Kubota Thailand
แนวโน้มกำไร 3Q66 เราคาดการณ์ถึงโมเมนตัมที่ดีขึ้นต่อเนื่องใน 3Q66 โดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการขายที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากกลับมาเดินเครื่องโรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) ท่ามกลางช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์สินค้าเคมีภัณฑ์โดยรวม นอกจากนี้เราก็คาดว่ากำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน
เงินปันผลงวด 1H66 SCC จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 2.50 บาท/หุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 1H66 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 ส.ค.
ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ลดลง 17% เพื่อสะท้อนอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำกว่าคาดของธุรกิจเคมิคอลส์ เนื่องจากอุปสงค์สินค้าเคมีภัณฑ์ฟื้นตัวช้า
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCC ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 357 บาท (จาก 385 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรในระยะกลางถึงระยะยาวของ SCC เนื่องจากโรงงานใหม่ “Long Son Petrochemical (LSP)” (กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น +40%) จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนก.ย. 2566
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงอุปทานเพิ่มเติมจำนวนมากที่จะเข้าสู่ตลาด
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม SCC230727_T