เราคาดว่า SPALI จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 1.7 พันลบ. (+0.7% YoY และ +179% QoQ) โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอน backlog คอนโดและส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในออสเตรเลีย ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q67 จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากการโอนคอนโดที่มีอยู่ในปัจจุบันและคอนโดใหม่ อย่างไรก็ตาม ยอด presales ใน 1H67 ที่อ่อนแอกว่าคาด ส่งผลทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลงสู่ระดับทรงตัวที่ 6 พันลบ. เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SPALI โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2567 ลดลงสู่ 19.60 บาท (จาก 23.80 บาท) อ้างอิง PE 6.4 เท่า (-0.25SD) โดยมีความกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มปี 2568 สืบเนื่องมาจาก backlog ระดับต่ำ
คาดกำไรสุทธิ 2Q67 เพิ่มขึ้นแรง QoQและเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอน backlog คอนโด เราประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 ของ SPALI ได้ที่ 1.7 พันลบ. (+0.7% YoY และ +179% QoQ) ซึ่งได้แรงหนุนจากรายได้รวม 8.1 พันลบ. (-0.3% YoY แต่ +77.7% QoQ) โดย 69% เป็นรายได้จากโครงการแนวราบ และ 31% เป็นรายได้จากคอนโดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการโอนคอนโดใหม่ 3 โครงการ: ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์, ศุภาลัย ไอคอน สาทร และ ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 36.6% เทียบกับ 36.3% ใน 1Q67 และ 35% ใน 2Q66 เพราะถูกฉุดรั้งโดยโครงการแนวราบและอัตรากำไรขั้นต้นโครงการในออสเตรเลียที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 35% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคอนโดยังแข็งแกร่งที่สูงกว่า 40% ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ JV ในออสเตรเลียน่าจะแข็งแกร่งที่ 200 ลบ. เพิ่มขึ้น 56.8% YoY และเป็นศูนย์ใน 1Q67 ดังนั้นกำไรสุทธิ 1H67 น่าจะอยู่ที่ 2.32 พันลบ. (-16.4%)
ยอด presales 1H67 คิดเป็น 37% ของเป้าทั้งปี, อาจพลาดเป้า SPALI รายงานยอด presales ใน 2Q67 ที่ 6.4 พันลบ. (-20% YoY และ -7% QoQ) โดย 65% เกิดจากโครงการแนวราบ (มูลค่าลดลง 17% YoY และ 20% QoQ) ในขณะที่ 35% เกิดจากคอนโด (มูลค่าลดลง 30% YoY แต่เพิ่มขึ้น 31% QoQ) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (RTM) ยอด presales ใน 1H67 อยู่ที่ 1.33 หมื่นลบ. คิดเป็น 37% ของเป้ายอด presales ที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 ที่ 3.6 หมื่นลบ. (+24% YoY) เราคาดว่า SPALI จะทำยอด presales ได้พลาดเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 ราว 15%
ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง; คาดกำไรสุทธิ 3Q67 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ปัจจุบัน SPALI มี backlog มูลค่า 1.64 หมื่นลบ. (แนวราบ 49% และคอนโด 51%) โดย 77% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 และส่วนที่เหลืออีก 23% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568-2569 สำหรับ 3Q67 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจาก backlog คอนโดรอโอน โดยเฉพาะจากโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร และยอดโอนใหม่ที่โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายได้ 1H67 ต่ำกว่าคาด และมีโอกาสสูงที่ SPALI จะทำยอด presales ได้พลาดเป้าที่บริษัทวางไว้ เราจึงปรับประมาณการรายได้ปี 2567 ลดลง 8% สู่ 3.08 หมื่นลบ. (+0.7%) และปรับประมาณการกำไรสุทธิลดลง 10% สู่ 6 พันลบ. ทรงตัว YoY
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล การเลื่อนลงทุนโครงการใหม่ในออสเตรเลียจากต้น 2Q67 เป็นปลาย 3Q67 อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสด สถานะหนี้สิน และส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ backlog ในปี 2568-2569 ก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
ความเสี่ยงด้าน ESG แม้ SPALI ได้มีการขออนุญาต EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ก่อนการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีกรณีคดีฟ้องร้องเกิดขึ้นในคอนโดบางโครงการ ซึ่งเราประเมินว่าเป็นความเสี่ยง ESG ในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม (มีผลกระทบต่อชุมชนบริเวณใกล้เคียง) และธรรมาภิบาล
|
|||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SPALI240726_T
|