เนื้อหาโดยรวม
STANLY รายงานกำไรสุทธิ 3QFY67 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) จำนวน 443 ลบ. (เพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 11% QoQ) หากไม่รวมกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 452 ลบ. (เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 7% QoQ) ผลประกอบการออกมาตามตลาดคาด กำไรที่เติบโต YoY ได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง ขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ สะท้อนถึงรายได้เงินปันผลที่ลดลง เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ STANLY เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเติบโตในระดับปานกลาง โดยปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 222 บาท/หุ้น หลังจากเปลี่ยนมาใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 3QFY67: กำไรเป็นไปตามตลาดคาด STANLY รายงานกำไรสุทธิ 3QFY67 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) จำนวน 443 ลบ. (เพิ่มขึ้น 18% YoY แต่ลดลง 11% QoQ) หากไม่รวมกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 452 ลบ. (เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 7% QoQ) ผลประกอบการออกมาตามตลาดคาด ปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโต YoY คืออัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง ขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ มีสาเหตุมาจากรายได้เงินปันผลที่ลดลง รายการที่สำคัญ
ปรับประมาณการกำไรลดลง กำไร 9MFY67 คิดเป็น 66% ของประมาณการกำไรเดิมของเรา โดยยอดขายที่ลดลงส่งผลทำให้เราปรับประมาณกำไรปกติลดลง 5% ทั้งในปี FY2567 และปี FY2568 โดยหลังจากปรับประมาณการ เราคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 2.5% ในปี FY2567 และ 5.3% ในปี FY2568 เราคาดว่ากำไรปกติ 4QFY67 (ม.ค.-มี.ค. 2567) จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY และเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ของเราปรับขึ้นมาอยู่ที่ 222 บาท/หุ้น (จากราคาเป้าหมายสิ้นป 2566 ที่ 216 บาท/หุ้น) เนื่องจากการปรับประมาณการกำไรลดลงถูกชดเชยด้วยการปรับปีฐานที่ใช้ในการประเมินราคาเป้าหมาย โดยราคาเป้าหมายของเราอิงกับ PE 9.4 เท่า (-0.5SD ของ PE เฉลี่ยในอดีตตั้งแต่ปี FY2563) เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ STANLY เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มเติบโตในระดับปานกลาง แม้ว่าเราชอบ STANLY เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานดี เพราะเทคโนโลยีของบริษัทรองรับรถ EV และบริษัทกำลังมองหาโอกาสผลิตชุดโคมไฟให้กับผู้ผลิตรถ แต่บริษัทยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนดังกล่าว ปัจจัยเสี่ยง 1) ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และ 2) ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก STANLY240209_T
|