ผลประกอบการ 2Q67 ของ TTB ออกมาตามคาด โดยสะท้อนถึง NPL ไหลเข้าที่เพิ่มขึ้น credit cost ที่สูงขึ้นโดยมีการตั้งสำรองพิเศษ management overlay มากขึ้น สินเชื่อที่หดตัวลง NIM ที่ลดลงเล็กน้อย non-NII ที่ลดลง (ถูกฉุดรั้งโดยรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ) และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ผลประโยชน์ทางภาษีช่วยสนับสนุนกำไรแม้ว่าผลประกอบการอ่อนแอ เราคาดว่ากำไร 2H67 จะอยู่ในระดับทรงตัว HoH (เพิ่มขึ้น YoY) เราคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ TTB และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 1.85 บาท
2Q67: ตามคาด TTB รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 5.36 พันลบ. (0% QoQ, +17% YoY) เป็นไปตาม INVX และ consensus คาด
NPL ไหลเข้าและ credit cost เพิ่มขึ้น NPL อยู่ในระดับทรงตัว QoQ ถ้านำยอดตัดหนี้สูญและยอดขาย NPL บวกกลับเข้ามา NPL จะเพิ่มขึ้น 28% QoQ เทียบกับ 2% QoQ ใน 1Q67 ซึ่งบ่งชี้ว่ามี NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้น (หลักๆ เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสองและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์) credit cost เพิ่มขึ้น 7 bps QoQ (+37 bps YoY) สู่ 1.62% จากการตั้งสำรองพิเศษ management overlay จำนวน 1.1 พันลบ. LLR coverage ลดลงจาก 167% ณ 1Q67 สู่ 151% TTB เปิดเผยว่าธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อให้กับ EA จำนวน 450 ลบ. TTB ไม่ได้ตั้ง ECL สำหรับสินเชื่อเหล่านี้ แต่เชื่อว่าสำรองพิเศษ management overlay ของธนาคารน่าจะเพียงพอรองรับ ECL จากสินเชื่อเหล่านี้ เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 เพิ่มขึ้น 15 bps สู่ 1.5% (-14 bps) เทียบกับเป้าของธนาคารที่ 1.25-1.35%
สินเชื่อหดตัวลง ที่ -1.4% QoQ, -4.9% YoY, -2.35% YTD โดยเกิดจากการหดตัวของสินเชื่อทุกกลุ่ม ยกเว้นสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash Your Car ) และสินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash Your Home) เราปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจาก 0% สู่ -3%
NIM หดตัวลงเล็กน้อย ที่ -2 bps QoQ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 7 bps QoQ มากกว่าอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น 4 bps QoQ NIM น่าจะอยู่ในระดับทรงตัวใน 2H67 และปี 2567 เนื่องจากการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจะถูกชดเชยโดยการประหยัดต้นทุนได้จากการไถ่ถอนตราสารหนี้ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 และ hybrid tier-1
Non-NII ลดลง -2% QoQ (-14% YoY) โดยมีสาเหตุมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง (-10% QoQ, -17% YoY) หลักๆ เกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียม bancassurance เราปรับประมาณการการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิปี 2567 ลดลงจาก 0% สู่ -7%
อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง -131 bps QoQ (-271 bps YoY) สู่ 41.82% opex ลดลง 5% QoQ (-8% YoY) สะท้อนถึงนโยบายควบคุมต้นทุนของธนาคาร เราปรับประมาณการการเติบโตของ opex ปี 2567 ลดลงจาก 0% สู่ -2%
ผลประโยชน์ทางภาษี ผลประโยชน์ทางภาษีช่วยสนับสนุนให้ TTB มีกำไรแม้ว่าผลประกอบการอ่อนแอ ธนาคารมีผลประโยชน์ทางภาษีคงเหลือจำนวน 1.27 หมื่นลบ. ณ 2Q67 (เทียบกับ 1.55 หมื่นลบ. ณ 4Q66) ซึ่งสามารถรับรู้ได้ภายในปี 2571
แนวโน้ม 2H67 กำไร 1H67 คิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เราคาดว่ากำไร 2H67 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว HoH (เพิ่มขึ้น YoY) เนื่องจากเราคาดว่า credit cost ที่ลดลง (ตั้งสำรองพิเศษ management overlay น้อยลง) จะถูกชดเชยโดย opex ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
คงคำแนะนำ NEUTRAL และคงราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ TTB และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 1.85 บาท (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.72 เท่า)
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ราคารถมือสองลดลง 3) ความเสี่ยงด้าน NIM จากการลดอัตราดอกเบี้ย และ 4) ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) และความปลอดภัยทางไซเบอร์
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก TTB240723_T
As expected, TTB’s 2Q24 results reflected rising NPL inflow, higher credit cost with more management overlay, loan contraction, slipping NIM, lower non-NII (dragged by net fee income) and easing cost to income ratio. A tax benefit kept its bottom line afloat in the sea of weak results. We expect 2H24 earnings to be stable HoH (higher YoY). We stay Neutral with an unchanged TP of Bt1.85.
|
---|
Click here to read and/or download TTB240723_E |