เคลื่อนไหวในกรอบ 1670-1695 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1670-1695 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคที่เริ่มดีขึ้น ทำให้มองหากยังไม่ต่ำกว่ากรอบล่างบริเวณ 1670 จุด ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบจุดสูงเดิมบริเวณ 1695 จุดได้อยู่ ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะกลับมาเป็นสัญญาณบวกในภาพรวม
ประเด็นสำคัญ
• BoE ปรับขึ้น ด.บ. 0.50% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณชะลอขึ้น ด.บ. โดยระบุว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว ด้าน ECB ปรับขึ้น ด.บ. 0.50% ตามคาดเช่นกัน และระบุชัดเจนว่าจะขึ้น ด.บ. อีก 0.50% ในการประชุม มี.ค.
• ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน ม.ค. ของสหรัฐวันนี้
• Amazon.com, Alphabet A รายงานกำไร 4Q65 ต่ำกว่าคาด ส่วน Apple, Starbucks รายงานกำไร 1QFY66 ต่ำกว่าคาด
• บอร์ด EV เห็นชอบมาตรการให้เงินสนับสนุน 2.4 หมื่นลบ. สำหรับแบตฯ EVที่ผลิตในไทย และลดภาษีสรรพสามิตลงจาก 8% เหลือ 1%
• กบน. เห็นชอบลดราคาน้ำมันดีเซล 50 สตางค์/ลิตร มีผล 15 ก.พ. หลังราคาดีเซลตลาดโลกเฉลี่ยต่ำกว่า 120 เหรียญ/บาร์เรล
• พาณิชย์ระบุเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา FTA ไทย-อียู ใน 2 สัปดาห์นี้ คาดประกาศเริ่มต้นเจรจาอย่างเป็นทางการไม่เกิน 1Q66
• รมว. คลังระบุไม่เลื่อนจัดเก็บภาษีขายหุ้น ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกา แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะประกาศลงราชกิจจาฯ บังคับใช้เมื่อใด
• ตลท. เตรียมเปิดตัวระบบซื้อขายใหม่ 7 มี.ค. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการซื้อขาย ส่วนการขยายเวลาเทรดอยู่ระหว่างการศึกษา
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงพักตัวและมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมี Valuation ตึงตัวและขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงยังแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่มอง SET ยังมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ และมี Valuation ตึงตัว จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากการเข้าใกล้สู่ช่วงการเลือกตั้งของไทย เลือก BEC CENTEL CPN MAJOR
2) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65-1Q66 มีแนวโน้มเติบโตดี เลือก ERW MINT BLA BEM CPALL CRC MAKRO
ช่วงสั้นยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้
1) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
2) หุ้นขุดเหมือง แม้ช่วงสั้นจะได้รับ sentiment บวกจากการปรับขึ้นของ Bitcoin แต่ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เนื่องจากมีต้นทุนไฟฟ้าที่สูง ทำให้ผลประกอบการมีความเสี่ยงขาดทุน
Daily Focus
MINT 4Q65 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดของปี 65 โดยประเมินกำไรปกติได้ที่ 2.3 พันลบ. แรงหนุนจากช่วงโลว์ซีซั่นที่แข็งแกร่งในยุโรป การดำเนินงานโรงแรมที่ดีขึ้นในไทยและมัลดีฟส์ และการดำเนินงานร้านอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น
MTC เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยรายใหญ่ที่สุด ซึ่ง 4Q65 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9%YoY แต่ลดลง 1%QoQ สู่ 1.19 พันลบ. ส่วนทั้งปี 65 คาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 4%YoY สู่ 5.15 พันลบ. และเติบโตต่อ 11%YoY ในปี 66
