ชะลอตัว แต่ไม่ต่ำกว่า 1540 ยังดี |
แนวโน้มตลาดวันนี้ |
คาด SET ชะลอตัว หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ย โดยจะขึ้นอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม มองการอ่อนตัวมีแนวรับที่ 1550 และ 1540 จุด ซึ่งหากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนียังมีทิศทางที่ดีอยู่ต่อการปรับขึ้นได้ในภาพรวม ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1570 และ 1580 จุด ตามลำดับ |
ประเด็นสำคัญ |
• ผลการประชุม FOMC มีมติคง ดบ. ที่ 5.00-5.25% ตามคาด แต่ dot plot บ่งชี้ จนท. Fed ส่งสัญญาณขึ้น ดบ. 0.25% อีก 2 ครั้งสู่ระดับ 5.6% ในปีนี้ ส่วนปี 2567 และ 2568 คาดที่ 4.6% และ 3.4% ตามลำดับ• สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป พ.ค. +1.1%YoY ต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2563 และลดลงจาก เม.ย. ที่ +2.3%YoY ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน พ.ค. +2.8%YoY ต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.พ. 2564 ลดลงจาก เม.ย. ที่ +3.2%YoY• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 500,000 บาร์เรล• นิวซีแลนด์เข้าสู่ภาวะ ศก. ถดถอยทางเทคนิคหลัง GDP 1Q66 ลดลง 0.1% จากความตึงตัวของนโยบายการเงินต่อเนื่อง• ธปท.ส่งสัญญาณขึ้น ดบ. ต่อ แม้เงินเฟ้อ พ.ค. ต่ำกว่าคาด แต่กังวลช่วงท้ายปีอาจกลับมาเร่งตัวได้ ซึ่งต้องทำให้อยู่ในกรอบยั่งยืน• ส.อ.ท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ พ.ค.66 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 กังวลการส่งออกที่ชะลอตัวตาม ศก.โลก และความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง หวังรัฐเร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว• PTT มีมติเห็นชอบให้ส่วนลดราคาก๊าซเอ็นจีวี สำหรับกลุ่มรถแท็กซี่ กิโลกรัม (กก.) ละ 5.52 บาท และให้ส่วนลดกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ กก.ละ 1.55 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.นี้ จนถึงสิ้นปี 66• กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนภาวะเอลนิโญรุนแรงกว่าที่ประเมิน ฝนจะทิ้งช่วงยาวนานข้ามปีถึง ก.พ.67 หลายจังหวัดเจอภัยแล้ง |
กลยุทธ์การลงทุน |
มอง SET จะผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน โดยแม้การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีมติคงดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ Dot Plot ส่งสัญญาณปรับขึ้นต่ออีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี ทำให้ยังมองตลาดหุ้นไทยมี Upside จำกัด ควบคู่ไปกับความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทยที่ล่าช้า จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนต่อเนื่อง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” |
ล็อคเป้าลงทุน |
Weekly Portfolio :มอง SET ผันผวนในกรอบ แม้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐจะคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่ Dot Plot ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นต่ออีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี ทำให้ยังมองตลาดมี Upside จำกัด กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP และหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KCE ONEE2. หุ้นเชิงรับหลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ต่อ เพื่อคุมเงินเฟ้อ เลือก BDMS BEMขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับหุ้นที่มีความเสี่ยงหรือปัจจัยลบกดดันราคาหุ้น ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัย จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU CENTEL) และกลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SIRI QH AP) และ 3) หุ้นที่เราแนะนำ Underperform หรือมีความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม (AAV SAWAD MST NRF) |
Daily Focus |
SCGP กำไรอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยการฟื้นตัวใน 2Q66 คาดได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการบรรจุภัณฑ์โดยรวมที่ฟื้นตัวสู่ระดับปกติ นอกจากนี้แรงกดดันเรื้องต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนพลังงานถ่านหินยังลดลงอย่างต่อเนื่องKCE มองผลประกอบการคาดจะกลับมาเติบโตอีกครั้งใน 2H66 จาก Pent up demand โดยเฉพาะจากลูกค้าฝั่งยุโรปซึ่งคาดจะชดเชยการปรับลดราคาขายให้กับลูกค้าได้ และคาดจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ที่มีการขยายกำลังผลิตครั้งใหญ่ |
บทวิเคราะห์วันนี้ |
AOT – พบกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ครั้งแรก |