Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 19 ก.ค. 2566

19 Jul 23 12:47 PM
Screenshot-2023-07-19-122122-20240911164627
Upside ดูจำกัด ติดตามโหวตนายกฯ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET ในระยะสั้นยังมี upside จำกัด โดยมีแนวต้าน 1545 และ 1555 จุด ตามลำดับ เนื่องจากสัญญาณเทคนิคระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ overbought และความไม่แน่นอนทางการเมืองกระตุ้นแรงขายลดความเสี่ยง เพื่อประเมินสถานการณ์สำหรับการโหวตนายกฯ ในวันนี้ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1526 และ 1518 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ 

• วันนี้จับตาโหวตนายกฯ รอบสอง ด้าน ปธ. สภาฯ ระบุยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเสนอชื่อคุณพิธาเป็นนายกฯ เป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ต้องฟังเสียงของสมาชิกอีกครั้ง• กบน. เห็นชอบตรึงราคาดีเซล 32 บา./ลิตร เริ่ม 21 ก.ค. ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ช่วยบรรเทาผลกระทบ ปชช. หลังมาตรการลดภาษีฯ สิ้นสุด 20 ก.ค.• กขค. อนุญาตให้ควบรวมธุรกิจ BCP และ ESSO มองว่าจำเป็นตามควรทางธุรกิจ ตลาดลดการแข่งขันแต่ไม่ถึงขั้นทำ ศก. เสียหาย โดยตั้ง 6 เงื่อนไข เช่น ห้าม ก. คลัง-ประกันสังคมฯ ถือหุ้น BCP เพิ่มใน 5 ปี คุมปริมาณซื้อน้ำมันดิบต่อรายจากคู่ค้าไม่เกิน 50% ใน 5 ปี รักษาสัญญาคู่ค้า ESSO จนครบกำหนด• สหรัฐรายงานยอดค้าปลีก มิ.ย. เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม มิ.ย. ลดลงต่อเนื่องจากเดือน พ.ค. สร้างความคาดหวังว่า Fed ใกล้ยุติวงจรขาขึ้น• ผลประกอบการ 2Q66 ของหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐ อาทิ Bank of America และ Morgan Stanley ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด• HP เตรียมย้ายฐานการผลิต PC และ Notebook จากจีนมาไทย ส่วน Laptop เชิงพาณิชย์จะย้ายไปเม็กซิโก กระจายความเสี่ยงจากจีน• การส่งออกน้ำมันของรัสเซียในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงสู่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน• จีนเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 11 ข้อ โดยเน้นไปที่การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก โดยยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในระดับหนึ่ง และคาดหวังนโยบายการเงินอาจไม่ตึงตัวมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก BBL ADVANC OSP BDMS BEM2. หุ้นพื้นฐานดีซึ่งคาดยังมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2023 มากกว่าปีละ 5% เลือก TISCO LH PTT3. นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำหุ้นเก็งกำไร หากประเด็นการเมืองในไทยเปลี่ยนแปลง เลือก GULF GPSC CPALL SIRI SC4. หาก SET ปรับลงมาแถว 1450 จุด มองเป็นโอกาสซื้อหุ้นที่ราคาปรับลงลึกจนซื้อขายด้วย PER และ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1SD เลือก CRC SCGP ORขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) หลังมองมีโอกาสที่ตลาดจะปรับลดคาดการณ์กำไรลงหลังประกาศงบ 2Q66 ซึ่งคาดภาพรวมอ่อนทั้ง YoY และ QoQ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT) และ 3) หุ้นท่องเที่ยวที่อาจได้รับกระทบเชิงลบจากประเด็นการเมือง
Daily Focus

BBL 2Q66 คาดกำไรเติบโต 56%YoY และ 8%QoQ ซึ่งเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งสุดในกลุ่มธนาคาร แรงหนุนจากการตั้งสำรองที่ลดลงและ NIM ที่กว้างขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆOSP แม้กำไรปกติ 2Q66 จะลดลง YoY แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นใน 2H66 โดยได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นและต้นทุนสินค้าขายโดยเฉลี่ยที่ลดลง และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มปิโตรเคมี – ส่วนต่างราคาแคบลง WoW อย่างต่อเนื่องOSP – ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2566SIRI – พรีวิว 2Q66: คาดกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230719_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5