ทรงไม่ดี ท่ามกลางความกังวล |
แนวโน้มตลาดวันนี้ |
คาด SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้ต่อ ท่ามกลางความกังวลทั้งปัจจัยภายใน และภายนอก โดยภายในประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ด้านการเมือง โดยวันนี้ติดามการแถลง MOU พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการโหวตเลือกนายกฯ ยังต้องลุ้นต่อ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ การเจรจาขยายเพดานหนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป ด้านดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1507 และ 1500 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1522-1530 จุด |
ประเด็นสำคัญ |
• วันนี้ติดตาม ปธน. ไบเดน และ ปธ. สภาฯ แมคคาร์ธี เจรจาเพดานหนี้รอบใหม่ หลังการเจรจาปลายสัปดาห์ที่แล้วยุติลงชั่วคราว เนื่องจากตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นที่แตกต่างกัน• ปธ. Fed กล่าวถ้อยแถลงเดินหน้าปรับขึ้น ด.บ. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ระบุว่าภาวะตึงตัวในภาคธนาคารเป็นปัจจัยทำให้ Fed ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น ด.บ. ในระดับที่สูงมากนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย• รมว. คลังสหรัฐระบุอาจจำเป็นต้องมีการควบรวมกิจการธนาคารมากขึ้น หลังการล่มสลายของธนาคารหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา• รัฐบาลจีนสั่งให้ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้ยุติการใช้ชิปจาก Micron Technology ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ สร้างความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐในประเด็นเทคโนโลยีความมั่นคง• วันนี้จับตา 8 พรรคการเมืองเตรียมลงนาม MOU แยกเป็นวาระร่วมกับวาระเฉพาะ• รฟท. เตรียมเสนอบอร์ด 22 มิ.ย.นี้ ลงนามสัญญาจ้างกิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10JV งานสัญญา 3-1 รถไฟไฮสปีดไทย-จีน เฟส 1 ส่วนสัญญา 4-5 รออัยการตรวจร่างสัญญา• รมว.คลังระบุงบฯ ปี 2567 ที่ล่าช้า ต้องรอให้รัฐบาลใหม่มาพิจารณา• PTT ระบุแนวโน้มราคา LNG ขาลง ส่งผลดีค่าไฟฟ้าปลายปีถูกลง |
กลยุทธ์การลงทุน |
มอง SET ยังคงผันผวนตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งคาดจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯ กลยุทธ์จึงแนะนำให้ “Selective Buy” |
ล็อคเป้าลงทุน |
Weekly Portfolio : แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งอาจกดดันให้ SET ผันผวนได้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้น Best of the best ซึ่งมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL2. หุ้นที่คาดหวังจะได้ประโยชน์จากนโยบายทั้งเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม (Old Economy) และแบบเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เลือก MAKRO MINT ADVANC BDMS EA AHขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยฯ จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ KEX กลุ่มอสังหา (LPN SIRI PSH QH) กลุ่มอาหาร (ZEN CPF GFPT TU) และ 3) หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าโควิด-19 และเราแนะนำ Underperform เลือก KTC ASP MST THRE AAV SAT |
Daily Focus |
ADVANC ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น YoY อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย 2Q66 คาดกำไรจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น คือ การที่ TTTBB สามารถเจรจาตกลงอัตราค่าเช่าใหม่กับ JASIF ได้สำเร็จAOT ปี FY2566 (ต.ค. 65-ก.ย. 66) คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวกลับมามีกำไร 1.5 หมื่น ลบ. โดยกำไรจะเร่งตัวขึ้นในระยะถัดไป ด้วยแรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เติบโตเพิ่มขึ้น และการกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ |
บทวิเคราะห์วันนี้ |
PTTGC – 2Q66 จะยังคงเผชิญกับความท้าทายSIRI – 1Q66: กำไรสุทธิสูงกว่าคาดเพราะกำไรพิเศษStock Note – HANA, ONEE |