การเคลื่อนไหวของ SET Index: คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1418-1435 จุด โดยกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีจากราคาน้ำมันที่ปรับลงแรง นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้
ประเด็นสำคัญวันนี้: หนี้ครัวเรือนไทยปี 2567 สูงสุดในรอบ 16 ปี, กระทรวงคมนาคมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายภายในเดือน ก.ย. 2568, และ FETCO มองฟันด์โฟลว์ทยอยเข้าหุ้นไทยต่อหากนโยบายรัฐบาลทำได้จริง
กลยุทธ์การลงทุน: แม้จะมีโมเมนตัมที่ดี แต่ควรระวังการขายทำกำไรระยะสั้น แนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัว หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่
แกว่งในกรอบ รอดูเงินเฟ้อสหรัฐ |
คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1418-1435 จุด โดยแม้กลุ่มพลังงานจะกดดันดัชนี หลังราคาน้ำมันปรับลงแรง อย่างไรก็ตาม คาดกรอบล่างที่เป็นแนวรับ ยังรองรับได้ ส่วนกรอบบนยังจำกัด โดยนักลงทุนในตลาดรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าวันที่ 17-18 ก.ย. นี้
|
ประเด็นสำคัญ |
• ม. หอการค้าไทย เผยหนี้ครัวเรือนไทยปี 2567 สูงสุดรอบ 16 ปี เฉลี่ยต่อครัวเรือน 606,378 บาท เพิ่มขึ้น 8.4%YoY สาเหตุจากเศรษฐกิจชะลอ ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย ส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต เผยแจกเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบางกระตุ้นจีดีพี 0.2-0.3%
|
กลยุทธ์การลงทุน |
แม้ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากคลายกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยและคาดหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปลาย 3Q-4Q67 แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับขึ้นแล้วกว่า 10%MoM จึงอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1450-1460 จุด โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะสลับไหลออกจากกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อสาร ไปเข้าสู่กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อสังหา และการแพทย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงและคาดจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy"
|
ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ |
แม้ช่วงสั้นมอง SET จะยังมีโมเมนตัมที่ดี แต่อาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 4 ธีม ดังนี้
|
Daily Top picks
|
GPSC: มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากราคาก๊าซที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน วันนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกิน 45.50 บาท
|
บทวิเคราะห์วันนี้ |
กลุ่มปิโตรเคมี - ราคาน้ำมันที่ลดลงก่อให้เกิดความกังวล |