Keyword
Strategy. Insights_Thumbnail-03
PDF Available  
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2567

11 Sep 24 9:24 AM
สรุปสาระสำคัญ
  1. การเคลื่อนไหวของ SET Index: คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1418-1435 จุด โดยกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีจากราคาน้ำมันที่ปรับลงแรง นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

  2. ประเด็นสำคัญวันนี้: หนี้ครัวเรือนไทยปี 2567 สูงสุดในรอบ 16 ปี, กระทรวงคมนาคมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายภายในเดือน ก.ย. 2568, และ FETCO มองฟันด์โฟลว์ทยอยเข้าหุ้นไทยต่อหากนโยบายรัฐบาลทำได้จริง

  3. กลยุทธ์การลงทุน: แม้จะมีโมเมนตัมที่ดี แต่ควรระวังการขายทำกำไรระยะสั้น แนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัว หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

แกว่งในกรอบ รอดูเงินเฟ้อสหรัฐ

คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1418-1435 จุด โดยแม้กลุ่มพลังงานจะกดดันดัชนี หลังราคาน้ำมันปรับลงแรง อย่างไรก็ตาม คาดกรอบล่างที่เป็นแนวรับ ยังรองรับได้ ส่วนกรอบบนยังจำกัด โดยนักลงทุนในตลาดรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

 

ประเด็นสำคัญ 

• ม. หอการค้าไทย เผยหนี้ครัวเรือนไทยปี 2567 สูงสุดรอบ 16 ปี เฉลี่ยต่อครัวเรือน 606,378 บาท เพิ่มขึ้น 8.4%YoY สาเหตุจากเศรษฐกิจชะลอ ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย ส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต เผยแจกเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบางกระตุ้นจีดีพี 0.2-0.3%
• รมว. คมนาคมประกาศผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้ครบทุกสายภายในเดือน ก.ย. 2568 และยืนยันเดินหน้าโครงการ Landbridge โดยล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเบื้องต้น คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2573
• FETCO มองฟันด์โฟลว์ทยอยเข้าหุ้นไทยต่อ ขานรับหากรัฐบาลเดินหน้านโยบายต่อเนื่องทำได้จริง เผยหารือ ก.ล.ต.-ผู้จัดการตลท. คนใหม่ เร่งปั้นสตาร์ดวงใหม่ ชูกลุ่มเทคฯ-สตาร์ตอัปเสริมเสน่ห์ หวังดูดเงินลงทุน
• ดีป้าเผยอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยปี 2566 ขยายตัว 3.88% สร้างมูลค่ากว่า 2 ล้านลบ. โดยอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มีอัตราเติบโตโดดเด่นสูงสุดกว่า 12% พุ่งทะลุ 2 แสน ลบ. แนวโน้มสดใสต่อ 3 ปี เตือนผู้ส่งออกปรับตัวรับเทรนด์เทคโนโลยีใหม่
• รมว.พลังงาน เผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรากฎหมายด้านพลังงานฉบับใหม่ ซึ่งจะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่การอ้างอิงราคาในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ราคาพลังงานถูกลง ทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้ม โดยกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันมีการปรับเปลี่ยนราคาได้เพียงเดือนละครั้งเดียว
• ศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดพายุเฮอร์ริเคนอาจพัดถล่มชายฝั่งรัฐลุยเซียนาในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตและการกลั่นน้ำมันในเขตกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีการผลิตน้ำมันในสัดส่วนสูงถึง 50% ของกำลังการกลั่นน้ำมันภายในประเทศ

 

กลยุทธ์การลงทุน 

แม้ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากคลายกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยและคาดหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปลาย 3Q-4Q67 แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับขึ้นแล้วกว่า 10%MoM จึงอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1450-1460 จุด โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะสลับไหลออกจากกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อสาร ไปเข้าสู่กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อสังหา และการแพทย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงและคาดจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy"

 

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะยังมีโมเมนตัมที่ดี แต่อาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 4 ธีม ดังนี้


1) นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ CPN GPSC TFFIF
2) นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) กลุ่มอสังหาฯ (AP) กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF)
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากคาดรัฐบาลใหม่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในช่วง ก.ย. นี้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แนะนำ CPALL CPAXT BJC TNP CBG
4) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO

 

Daily Top picks

 

GPSC: มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากราคาก๊าซที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน วันนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกิน 45.50 บาท


BCH: 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ส่วนปี 2567 แม้คาดกำไรจะทรงตัว YoY แต่จะกลับมาเติบโตเด่นอีกครั้ง 18.7%YoY ในปี 2568 ขณะที่มองราคาหุ้นที่ปรับลงมาแล้ว 24%YTD จนทำให้ปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2568 ระดับ 21 เท่า หรือระดับ -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต สะท้อนประเด็นลบไปเรียบร้อยแล้ว

 

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มปิโตรเคมี - ราคาน้ำมันที่ลดลงก่อให้เกิดความกังวล
BH - การเปิดรพ.ใหม่ที่ภูเก็ตหนุนมูลค่าเพิ่มในระยะยาว แต่สร้างแรงกดดันในระยะสั้น

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5