แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1610-1630 จุด โดยการฟื้นตัวยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1630 และถัดไปที่จุดสูงเดิมบริเวณ 1640 จุด จากแรงขายทำกำไรอย่างไรก็ตาม กรอบล่างบริเวณ 1610 จุด ยังเป็นจุดรองรับมาได้หลายวัน ซึ่งหากต่ำกว่า จะสร้างสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1590-1600 จุด
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐเตรียมอนุญาตให้เชฟรอนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลา
• ทางการจีนเตรียมใช้นโยบายสร้างเสถียรภาพและมาตรการเต็มรูปแบบเพื่อหนุนการฟื้นตัว ศก. หนุนเอกชนออกพันธบัตร-ลดสำรองฯ ขั้นต่ำ
• จีนรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 3.1 หมื่นคน สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ทำให้ต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่
• ก.ท่องเที่ยวระบุจำนวน นทท. ต่างชาติสะสม 1 ม.ค.–19 พ.ย. 65 อยู่ที่ 8.2 ล้านคน ทำรายได้ 2.81 แสนลบ. คาดปลายปีได้แรงหนุนจาก APEC
• สรท. คาดส่งออก 4Q65 หดตัว 3%YoY กดดันจาก ศก. โลกถดถอย ค่าเงินผันผวน ปีหน้าคาดโต 2-3% ค่าระวางเรือลดลง
• ส.อ.ท. ระบุยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค. +15.5%YoY ยอดผลิต +10.8%YoY โดย 10M65 ยอดผลิตที่ 1.53 ล้านคัน มีโอกาสถึงเป้าทั้งปี 1.8 ล้านคัน
• BOI เตรียมเสนอรัฐบาลเห็นชอบสิทธิยกเว้นภาษี 13 ปี กิจการ FCEV และกิจการไฮเทคโนโลยี มีผล 3 ม.ค. 66 หนุนอุปสงค์ EV-โรงงานแบตเตอรี่
• ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดตลาดที่อยู่อาศัยปีหน้ามีโอกาสหดตัว -1.1% กดดันจากการไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการ LTV
• BAY ซื้อหุ้นธุรกิจสินเชื่อ Home Credit ในอินโดฯ และฟิลิปปินส์ สัดส่วน 75% มูลค่ารวมราว 1.7 หมื่นลบ.
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวแคบและมีโอกาสพักตัว หลังตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ อาทิ GDP 3Q65 ของไทยและรายงานการประชุม FOMC ที่ตลาดมองหาสัญญาณการเปลี่ยนท่าทีการทำนโยบายการเงิน ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จีนมีแนวโน้มเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งคาดหนุนท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เลือก MINT ERW / SCGP IVL
3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ซึ่งคาดกระตุ้นบรรยากาศการบริโภคในช่วงเชียร์บอล เลือก CPALL CENTEL MINT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily Focus
GPSC มองกำไรจากการดำเนินงานใน 4Q65 จะยังคงรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้ได้ ขณะที่ปี 66 แนวโน้มผลประกอบการจะเป็นบวกมากขึ้นแรงหนุนจากค่า Ft เฉลี่ยที่สูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
BBL 4Q65 คาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคาร รวมทั้งมองมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการกลับเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น