Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 26 พ.ค. 2566

26 May 23 10:00 AM
Screenshot-2023-05-26-100431-20240912005535
Upside จำกัด ต่ำกว่า 1530 เป็นลบ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET ในระยะสั้นมี Upside จำกัดบริเวณแนวต้าน 1542 และ 1550 จุด ตามลำดับ หลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ และยังติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. ด้านแนวรับอยู่ที่ 1530 จุด เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่า จะเริ่มเห็นการชะลอตัวชัดขึ้น และมีแนวรับถัดไปที่ 1523 จุด
ประเด็นสำคัญ 

• สศอ. ระบุ EU เตรียมใช้มาตรการภาษีคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน 1 ต.ค.นี้ คาดอุตสาหกรรมพลาสติก เหล็ก อะลูมิเนียมรับผลกระทบมากสุด แนะนำผู้ประกอบการไทยปรับตัว-ขยายตลาดส่งออก• EEC คาด รฟท. ส่งมอบพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภายใน ต.ค.นี้ รอแจ้งเอกชนเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้• ฟิทช์ เรทติ้งส์ระบุอันดับความน่าเชื่อถือของไทยมีความเสี่ยงลดลงหากจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า และรัฐบาลมีสัดส่วนหนี้ภาครัฐสูงขึ้น• พาณิชย์ปรับกลยุทธ์หนุนการส่งออกไทย 2H66 คาดสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 1.9 หมื่นลบ. ขณะที่ภาคเอกชนกังวลต้นทุนเพิ่ม ทั้งค่าแรง ค่าไฟ เงินบาทแข็ง กระทบผู้ส่งออก• สหรัฐรายงาน GDP 1Q66 (ประมาณการครั้งที่ 2) ขยายตัว 1.3% สูงกว่าคาดที่ 1.1% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 1.1% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด• ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนสหรัฐถูกลดอันดับเครดิต หากขยายเพดานหนี้ไม่ได้ก่อนเส้นตาย 1 มิ.ย.• รองนายกฯ รัสเซียระบุไม่สนับสนุนให้ OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในการประชุม 4 มิ.ย. หลังสมาชิกบาง ปท. ประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจเมื่อเดือนที่แล้ว

กลยุทธ์การลงทุน
มอง SET ยังคงผันผวนตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค. ซึ่งคาดจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯ กลยุทธ์จึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งอาจกดดันให้ SET ผันผวนได้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้น Best of the best ซึ่งมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL2. หุ้นที่คาดหวังจะได้ประโยชน์จากนโยบายทั้งเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม (Old Economy) และแบบเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เลือก MAKRO MINT ADVANC BDMS EA AHขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยฯ จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ KEX กลุ่มอสังหา (LPN SIRI PSH QH) กลุ่มอาหาร (ZEN CPF GFPT TU) และ 3) หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าโควิด-19 และเราแนะนำ Underperform เลือก KTC ASP MST THRE AAV SAT
Daily Focus

MAKRO มองมีปัจจัยกระตุ้นราคาในระยะสั้น คือ การเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Indexes (ใช้ราคาปิด 31 พ.ค.) ขณะที่กำไร 2Q66 คาดเติบโต YoY และจะปรับตัวดีขึ้น HoH ใน 2H66 จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงKBANK มองได้ผลบวกจากการลงนาม MOU ของพรรคการเมืองซึ่งมีแผนให้ SMEs กลับมาเติบโต ขณะที่ปี 2566 คาดกำไรจะเติบโต 8%YoY จากสินเชื่อที่เติบโต 5% NIM ที่ขยายตัว 16 bps รวมถึง credit cost, non-NII และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในระดับทรงตัว

บทวิเคราะห์วันนี้

MAKRO – การดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นตามคาดใน 2Q66TDOR – มีแรงหนุนจากค่าการตลาดที่ดีขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230526_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5