ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

สวัสดีตอนเช้า - 17 เม.ย. 2567 ปรับลง ปัจจัยภายนอกกดดัน

blog_list_heading
17 เม.ย. 2567;
32
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

ปรับลง ปัจจัยภายนอกกดดัน

คาด SET ปรับตัวลง โดยดัชนีได้รับปัจจัยกดดันจากภายนอก ทั้งปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงในช่วงหยุดสงกรานต์ และถ้อยแถลงประธานเฟดที่ส่งสัญญาณจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1390 และ 1380 จุด หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1405-1410 จุด

ประเด็นสำคัญ 

• ปธ. Fed ส่งสัญญาณว่า Fed อาจตรึง ดบ. ที่ระดับสูงนานกว่าที่คาด หลังข้อมูล ศก. และตลาดแรงงานยังขยายตัว ส่วนเงินเฟ้อแม้ชะลอลงแต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้ Fed มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับลงสู่เป้าหมาย 2%
• PBOC อัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวนผ่าน reverse repo อายุ 7 วัน ที่ ดบ. 1.8% อีกทั้งอัดฉีดเงิน 1 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบธนาคาร ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่ ดบ. 2.5%
• จีนรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม มี.ค. ปรับขึ้น 4.5%YoY และยอดค้าปลีก มี.ค.ปรับขึ้น 3.1%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่ราคาบ้านใหม่ มี.ค. ลดลง 2.2%YoY ปรับลงรุนแรงสุดในรอบกว่า 8 ปี ตั้งแต่ ส.ค. 58
• ราคาทองโลกปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดทุกวันในช่วงสงกรานต์ ท่ามกลางความเสี่ยงสุดตึงเครียดใน ตอ. กลาง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ เม.ย. 67 อยู่ที่ 70.46 เพิ่มขึ้น 1.56%MoM จากบาทอ่อนค่า แรงซื้อเก็งกำไร ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
• Tesla เตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 10% ทั่วโลก มีเป้าหมายลดต้นทุนหลังยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้า
• สรท. คาดส่งออกไทยครึ่งปีหลังยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกเติบโตในกรอบแคบ จับตาสงคราม ตอ. กลางกระทบส่งออก 3Q67 แต่คาดปีนี้ยังขยายตัวได้ตามเป้า 1-2%
• กกร. คาด ศก. ไทยยังมีความเสี่ยง ด้วยข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง คงคาดการณ์ปีนี้โตต่ำ 2.8-3.3% ระบุภาครัฐควรกระตุ้นด้วยนโยบายการคลัง-การเงิน ปรับลด ดบ. หรือค่าธรรมเนียม FIDF

กลยุทธ์การลงทุน 

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับลงทดสอบบริเวณ 1380 จุด โดยแม้มีปัจจัยบวกในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ แต่คาดสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อิสราเอล จะกดดันต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อและขยายวงกว้างจะทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาพลังงานและเงินเฟ้อสูงขึ้น อีกทั้งมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ามากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะผันผวนเชิงลบ จากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทำให้ราคาพลังงานและเงินเฟ้อสูงขึ้น อีกทั้งเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ามากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้นที่สามารถลดความผันผวนและเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงขึ้นกับการตอบโต้ของอิสราเอลว่าจะออกมาในรูปแบบใด และจะนำไปสู่สงครามระหว่างอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และหุ้นโรงกลั่นจะได้ผลบวกผ่านกำไรสต๊อกที่เพิ่มขึ้นเชิงพื้นฐานชอบ BCP ส่วน TOP สำหรับการ Trading (ทั้งนี้หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การสู้รบอย่างเต็มรูปแบบอาจหนุนราคาน้ำมันเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะสั้น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานของอิหร่านที่คิดเป็น 3-4% ของอุปทานโลก และในกรณีเลวร้ายกระทบการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz อาจกระทบการส่งออกได้สูงสุดถึงกว่า 17% ของอุปทานโลก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)
2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) ซึ่งพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS BCH) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC)
3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการแจกเงินดิจิทัล เลือก CPALL CPAXT BJC HTC SNNP
4) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่จะดีขึ้นตามผลฤดูกาล เลือก AOT ERW MINT CPALL

Daily Top picks

PTTEP มองเป็นหุ้นที่สามารถลดความผันผวนและป้องกันความเสี่ยงจากกรณีกังวลสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งการเพิ่มของราคาน้ำมันในระยะสั้นยังเป็นโอกาส trading สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง ประเมินราคาน้ำมันระยะยาวที่ปรับเพิ่มทุก US$1/bbl เป็นบวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บ./หุ้น
BCH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มการแพทย์ในฐานะ earnings play เนื่องจากกำไรปกติจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการแพทย์ที่ 20%YoY ในปี 2567 แรงหนุนจากรายได้ที่สูงขึ้นและมาร์จิ้นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้ง Valuation ไม่แพง โดยเทรดที่ PER 67F ระดับ 30 เท่า หรือ -1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต

บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – ต้นทุนแนฟทาที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์
ADVANC – พรีวิว 1Q67: คาดกำไรฟื้นตัวช้า
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240417_T

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน