Keyword
สวัสดีตอนเช้า ตลาดหุ้นไทย

สวัสดีตอนเช้า - 19 เม.ย. 2566

19 Apr 23 9:09 AM
Screenshot-2023-04-19-090836-20240912044721

เคลื่อนไหวในกรอบ 1580-1610 จุด

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1580-1610 จุด โดยในช่วงนี้ไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีนัก และนักลงทุนในตลาดรอดูผลการดำเนินงานธนาคารขนาดใหญ่ของไทยในวันศุกร์นี้ ส่วนภาพรวม ยังใช้จุดติดตามบริเวณ 1570 จุด หากไม่ต่ำกว่า มองดัชนียังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีเป้าหมายบริเวณจุดสูงเดิม 1613-1615 จุด
ประเด็นสำคัญ 
• ปธ. Fed สาขาแอตแลนตาคาดว่า Fed จะขึ้น ด.บ. อีกเพียง 1 ครั้ง ก่อนจะพักการขึ้น ด.บ. ในปีนี้ เพื่อพิจารณาผลกระทบต่อ ศก. จากการใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงิน ขณะที่ ปธ. Fed สาขาเซนต์หลุยส์เห็นว่า Fed จำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้น ด.บ. เพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไป• ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน มี.ค. ของสหรัฐลดลง 0.8% สู่ระดับ 1.42 ล้านยูนิต แต่สูงกว่าคาดที่ระดับ 1.40 ล้านยูนิต• GDP 1Q66 ของจีน ขยายตัว 4.5%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดจะขยายตัว 4%YoY หลังจากที่มีการขยายตัว 2.9%YoY ใน 4Q65• ยูเครนระบุการขนส่งธัญพืชจากทะเลดำยังคงถูกระงับเป็นวันที่ 2 หลังรัสเซียกลับมาตรวจสอบเรือขนธัญพืชยูเครน เพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอุปทานในอนาคต• Goldman Sachs รายงานกำไร 1Q66 ลดลง 19%YoY อยู่ที่ 3.09 พันล้านเหรียญ และรายได้ลดลง 5%YoY อยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านเหรียญ ต่ำกว่าที่คาด• ก.ท่องเที่ยวระบุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 10-16 เม.ย. 2566 มีจำนวน นทท. ต่างชาติเที่ยวไทย 4.6 แสนคน ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีที่ 1.06 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศแล้วกว่า 2.24 แสนลบ.• พาณิชย์ประกาศนับหนึ่งเจรจา FTA ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 9 พ.ค. นี้ เปิดตลาดการค้าสินค้าและการลงทุน ตั้งเป้าสรุปให้เสร็จภายในปี 67
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหว Sideways อยู่ในกรอบระหว่าง 1580-1620 เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และรอดูผลประกอบการ 1Q66 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ อีกทั้งมุมมองที่แตกต่างระหว่างเฟดและตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาดในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1580-1620 หลังยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และรอดูผลประกอบการ 1Q66 ของกลุ่ม ธพ. ไทยที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ทำให้คาด Downside เริ่มจำกัด จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF2. หุ้นที่มีสถิติให้ผลตอบแทนดีหากซื้อวันแรกหลังเปิดสงกรานต์และขายปลายเดือน เม.ย. โดยคัดเลือกหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และมีปัจจัยบวกหนุน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน เลือก PTT BCP ซึ่งคาดได้อานิสงส์ราคาน้ำมันฟื้นตัวและค่าการกลั่นเข้าสู่ High Season, กลุ่มค้าปลีก เลือก HMPRO หลังอุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มให้ความเย็นปรับตัวดีขึ้นจากภาวะอากาศร้อนจัด และหุ้นปันผล เลือก AP KKP KTB LH ซึ่งจะขึ้น XD ในช่วงกลาง เม.ย.-ต้น พ.ค.
Daily Focus
MINT 1Q66 คาดกำไรเพิ่มขึ้น YoY โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารที่แข็งแกร่งขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากผลกระทบทางฤดูกาลของธุรกิจโรงแรมในยุโรป ขณะที่ราคาหุ้น MINT ยังต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 12%KCE 1Q66 คาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ และจะกลับมาเติบโตอีกครั้งใน 2H66 จาก Pent up demand โดยเฉพาะจากลูกค้าฝั่งยุโรปซึ่งคาดจะชดเชยการปรับลดราคาขายให้กับลูกค้าได้ และคาดจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ที่มีการขยายกำลังผลิตครั้งใหญ่
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์พุ่งขึ้น WoWADVANC – พรีวิว 1Q66: การแข่งขันรุนแรงน้อยลงBTG – พรีวิว 1Q66: คาดกำไรหดตัวลงKTC – 1Q66: ผลประกอบการเป็นไปตามคาดTISCO – 1Q66: ผลประกอบการเป็นไปตามคาด
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  Daily230419_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5