จีนกำลังเดินหน้าสู่การเป็นประเทศหุ่นยนต์อันดับหนึ่งของโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ระดับชาติที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนา Automated Economy อย่างเต็มรูปแบบ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเป็นสองเท่าภายในปี 2025 และสร้างมูลค่าการผลิตในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ให้ทะลุ 500,000 ล้านหยวน จีนในวันนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงผู้ใช้ แต่กำลังกลายเป็นผู้ผลิตและนวัตกรที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโลกด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติและ AI
การประยุกต์ใช้ AI ของจีนไม่ได้หยุดอยู่เพียงการใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีการกระจายไปยังหลายส่วนของเศรษฐกิจ อาทิ การใช้ AI ในการสร้างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Car) ซึ่งจะมีการพัฒนาไปสู่ Robo Taxi การพัฒนา Multimodal AI ซึ่งช่วยที่มีการเรียนรู้จดจำเสียง สร้าง VDO หรือการประยุกต์ใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัท ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า การประยุกต์ใช้ AI ในวงกว้างเหล่านี้ ช่วยให้ตลาด AI ในประเทศจีนมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง
CNROBOAI23 DR23 จาก InnovestX อ้างอิงดัชนี Global X China Robotics and AI ETF (2807.HK) เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงคลื่นการเติบโตนี้โดยตรง ผ่านการลงทุนในบริษัทจีนชั้นนำที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ระบบอัตโนมัติภาคการผลิต ไปจนถึงเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ AI และแพลตฟอร์ม Cloud CNROBOAI23 จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในเศรษฐกิจอัตโนมัติ (Automated Economy) ที่จีนกำลังสร้างขึ้น จากพลังของสมองกลและแขนกลแห่งยุคใหม่
จีนกับเป้าหมายสู่ประเทศหุ่นยนต์ และ AI อันดับหนึ่งของโลก
จีนกำลังเดินหน้าสู่การเป็น Automated Economy ภายใต้นโยบายระดับชาติที่ได้รับการผลักดันจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ซึ่งตั้งเป้าหมายเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมให้เป็นสองเท่าภายในปี 2025 และให้มูลค่าการผลิตในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ทะลุ 500,000 ล้านหยวน เป้าหมายดังกล่าวไม่เพียงมุ่งยกระดับประสิทธิภาพแรงงาน แต่ยังมีจุดประสงค์เพื่อเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
แผนพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน (Five-Year Robotics Development Plan 2021–2025) เน้นการสร้างระบบนิเวศหุ่นยนต์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา (R&D) การผลิตชิ้นส่วนหลัก ไปจนถึงการใช้งานในภาคการผลิตและบริการ เพื่อผลักดันให้จีนเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในระดับโลก ปัจจุบันจีนเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการติดตั้งหุ่นยนต์คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของยอดติดตั้งทั่วโลก สะท้อนถึงการเร่งเปลี่ยนผ่านของประเทศจากโรงงานแรงงานราคาถูกสู่โรงงานอัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยี AI
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น AI 5G และ Smart Manufacturing ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์โดยตรง ทั้งในด้าน “สมอง” ที่หมายถึงระบบ AI และซอฟต์แวร์ควบคุมอัจฉริยะ ไปจนถึง “แขนกล” ซึ่งคือหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ทำงานแทนมนุษย์ในสายการผลิต การบูรณาการของเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมของจีนแข็งแกร่งและครบวงจรมากขึ้น ตั้งแต่ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ไปจนถึงผู้พัฒนาแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์และระบบควบคุม
ภายในปี 2025 MIIT คาดว่าจีนจะมีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกอย่างน้อย 3 ถึง 5 แห่ง และมีผู้ประกอบการจีนที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลหลายราย การพัฒนาครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างรากฐานเทคโนโลยีของประเทศให้แข็งแกร่งในระยะยาว ทำให้จีนมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางหุ่นยนต์ของโลกทั้งในเชิงการผลิต การใช้งาน และนวัตกรรมในทศวรรษหน้า
ในด้าน AI จีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่การกำเนิดขึ้นของ DeepSeek ที่ถูกทดสอบแล้วว่า มีความสามารถทัดเทียมกับ AI ของฝั่งสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมี AI อื่นๆที่ถูกพัฒนาขึ้น อาทิ Qwen ของ Alibaba, Enrin ของ Baidu, Kling ของ Kuaishou และ AI อื่นๆ ที่มีความสามารถสูงแข่งขันได้ในระดับโลก โดยการพัฒนาของ AI ก้าวนี้นำไปสู่การประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน สร้างตลาดใหม่ และมีการผนวกเข้ากับชีวิตประจำวัน
ตลาด AI ของจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่โมเดลภาษาหรือการประมวลผลข้อมูลเท่านั้น แต่ยังขยายตัวเข้าสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) ที่กำลังได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อก้าวสู่การให้บริการ Robo Taxi ซึ่งถือเป็นน่านน้ำใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงมากในอนาคตอันใกล้
จากเหตุผลทั้งหมดที่ได้กล่าวมาชี้ให้เห็นว่า จีนกำลังเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI ในระดับโลก ด้วยนโยบายระดับชาติและการผลักดันของรัฐบาลที่เน้นทั้งการวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม และสนับสนุนการพัฒนา AI ชั้นนำ ซึ่งได้ถูกประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ตั้งแต่หุ่นยนต์อัจฉริยะ รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงบริการในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้จีนก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านจากโรงงานต้นทุนต่ำสู่โรงงานอัจฉริยะ สร้างโอกาสใหม่ในภาคการผลิตและบริการ รวมถึงพร้อมสร้างนวัตกรรมใหม่ที่มีความสามารถในระดับสากล เสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ลักษณะและนโยบายการลงทุนของกองทุน
CNROBOAI23 อ้างอิงจาก Global X China Robotics and AI ETF (2807.HK) ติดตามผลตอบแทนของ FactSet China Robotics and AI Index ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนศักยภาพการเติบโตของบริษัทจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดัชนีนี้คัดเลือกหุ้นจีนและฮ่องกงไม่เกิน 25 บริษัท โดยผ่านเกณฑ์คัดกรองที่เข้มงวด ทั้งด้านมูลค่าตลาด สภาพคล่อง และความเกี่ยวข้องเชิงธุรกิจ เพื่อให้ได้พอร์ตการลงทุนที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุตสาหกรรม
Global X China Robotics and AI ETF ครอบคลุมตั้งแต่ ผู้ผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโรงงานอัจฉริยะ ไปจนถึงผู้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะและระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) ที่กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีน นอกจากนี้ กองทุนยังลงทุนใน บริษัทซอฟต์แวร์ AI และแพลตฟอร์ม Cloud ที่เป็นสมองเบื้องหลังการประมวลผลข้อมูล รวมถึง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านเสียง ภาษา และข้อมูล (Speech & Language AI) ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างระบบโต้ตอบอัจฉริยะ (Conversational AI)
ด้วยการกระจายการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งระบบ “สมองกล” และ “แขนกล” ของเศรษฐกิจดิจิทัล CNROBOAI23 จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตระยะยาวจากเทรนด์หุ่นยนต์และ AI ของจีน ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในเชิงเทคโนโลยีและการใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างโครงสร้างพอร์ตและบริษัทหลักในกองทุน (Top Holdings Overview)
หมายเหตุ: บริษัทในดัชนีอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลล่าสุดของผู้ออกกองทุน Global X Factsheet
หมายเหตุเพิ่มเติม:
บริษัท Kingsoft Office (688111.SH) ที่อยู่ในพอร์ตของ ETF นี้เป็นบริษัทย่อยของ Kingsoft Group (3888.HK) ซึ่งถือธุรกิจหลายด้าน เช่น Office, Cloud และ Game — ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทนี้คล้ายกับ Alphabet ที่ถือหุ้นใน Google และ YouTube หรือ Sony Group ที่ถือ Sony Pictures โดย Kingsoft Office เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของผลิตภัณฑ์ WPS Office โดยตรง ซึ่งถือเป็นคู่แข่งหลักของ Microsoft Office ในตลาดจีน ทั้งนี้ DR ที่จะออกในประเทศไทยคือ KINGSOFT23 ซึ่งอ้างอิงกับบริษัทแม่ Kingsoft Group (3888.HK) ไม่ใช่ Kingsoft Office (688111.SH) ที่อยู่ในพอร์ตของ ETF นี้
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของธีมหุ่นยนต์และ AI ในจีน
ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องระวัง
แม้ธีมหุ่นยนต์และ AI มีศักยภาพการเติบโตระยะยาว แต่นักลงทุนควรระวังความผันผวนจากวัฏจักรอุตสาหกรรม และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี หรือ Regulation ด้าน AI ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้บริษัทจีนพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนและสร้างห่วงโซ่ Tech Self-Reliance ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สนใจลงทุนใน DR CNROBOAI23 (Global X China Robotics and AI ETF (2807.HK)) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน
คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน