บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจความแตกต่างของ Options สองสไตล์หลัก คือ American และ European ซึ่งไม่ใช่ชื่อเรียกตามภูมิภาค แต่เป็นการกำหนด "เวลาในการใช้สิทธิ์" โดยจะยกตัวอย่างประกอบจากตลาดระดับโลกและตลาดไทยอย่าง US Options (แบบ American) และ SET50 Index Options (แบบ European) เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพชัดเจน
สิทธิ์พิเศษที่แตกต่าง... เหมือนตั๋วคอนเสิร์ต 2 แบบ
เคยไหมที่รู้สึกว่า "จังหวะมันได้!" ในการลงทุน? ออปชั่นก็เหมือนการซื้อ "สิทธิ์" ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด แต่สิทธิ์นี้ก็มีกฎกติกาการใช้งานที่แตกต่างกัน เหมือนเราซื้อ "ตั๋วชมภาพยนตร์" 2 แบบ
แบบที่ 1 คือตั๋วที่อนุญาตให้เราเข้าชมได้ "ตั้งแต่วันเข้าฉายวันแรกจนกว่าจะเลิกฉาย วันไหนก็ได้"—นี่คือ American Options ที่ให้ความยืดหยุ่นในการใช้สิทธิ์ได้ ทุกเวลา ก่อนวันหมดอายุ หรือเรียกง่ายๆ ว่าจังหวะไหนที่กำไร เราก็สามารถใช้สิทธิ์นั้นได้ทันที!
ส่วนตั๋วแบบที่ 2 อนุญาตให้เราเข้าชมได้เฉพาะ "ในวันที่ระบุหน้าตั๋ว (วันหมดอายุ)" เท่านั้น—นี่คือ European Options ที่จำกัดการใช้สิทธิ์ไว้เฉพาะ วันสุดท้าย ก่อนหมดอายุเท่านั้น ซึ่งความแตกต่างของเงื่อนไขการใช้สิทธิ์นี้เอง ที่ส่งผลอย่างมากต่อกลยุทธ์การเทรด และมูลค่าของตัวออปชั่น
American Options: สิทธิพิเศษที่มาพร้อมความยืดหยุ่นสูง
สำหรับ American Options จุดเด่นที่สุดคือความยืดหยุ่นในการ "ใช้สิทธิ์ก่อนวันหมดอายุ (Early Exercise)" ลองนึกถึง US Options ที่มีหุ้นรายตัว (Single Stock Options) เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเป็นสไตล์อเมริกัน หากนักลงทุนซื้อ Call Options หุ้น APPLE ที่ราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) $ 250 และราคาหุ้นพุ่งขึ้นเป็น $300 ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ทั้งที่สัญญาเหลืออีก 5 เดือน นักลงทุนสามารถเลือกใช้สิทธิ์เพื่อ ซื้อหุ้น A ที่ราคา $250 ได้ทันที แล้วนำไปขายในตลาดที่ราคา $300 เพื่อทำกำไร $50 ต่อหุ้น (ยังไม่รวมพรีเมียมที่จ่ายไป)
ความยืดหยุ่นนี้มีค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหุ้นมีการจ่ายปันผล (Dividend) หาก Call Options อยู่ในสถานะ In-The-Money ลึกๆ การใช้สิทธิ์ก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD (Ex-Dividend Date) จะทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นและมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลด้วย ซึ่งในบางสถานการณ์ การใช้สิทธิ์ก่อนกำหนดอาจสร้างผลตอบแทนรวมที่ดีกว่าการขายสัญญาออปชั่นทิ้งไป
European Options: โอกาสที่ต้องรอจังหวะสุดท้าย
ในทางตรงกันข้าม European Options จะมีเงื่อนไขที่เรียบง่ายกว่า นั่นคือผู้ถือสิทธิ์สามารถใช้สิทธิ์ได้ เฉพาะในวันหมดอายุ (Expiration Date) เท่านั้น ตัวอย่างที่ชัดเจนในตลาดไทยคือ SET50 Index Options ที่ซื้อขายในตลาด TFEX โดยมีดัชนี SET50 Index เป็นสินทรัพย์อ้างอิง
สมมติว่าคุณซื้อ Call Options ของ SET50 Index Options ที่ราคาใช้สิทธิ์ 850 จุด และระหว่างสัญญาดัชนี SET50 พุ่งไปถึง 900 จุด แม้ว่าคุณจะเห็นกำไรลอยอยู่ตรงหน้าถึง 50 จุด แต่คุณก็ ไม่สามารถ ใช้สิทธิ์เพื่อรับผลกำไรได้ทันที คุณต้องรอจนถึงวันหมดอายุเท่านั้น และกำไร/ขาดทุนสุดท้ายก็จะคำนวณจาก ราคาที่ใช้เป็นการชำระราคาสุดท้าย (Final Settlement Price) ในวันหมดอายุนั้น
แม้จะดูเหมือนยืดหยุ่นน้อยกว่า แต่การจำกัดการใช้สิทธิ์นี้ทำให้ผู้ขาย (Seller) มีความเสี่ยงน้อยลงจากการถูกเรียกใช้สิทธิ์ก่อนกำหนด และยังทำให้การประเมินมูลค่า (Pricing) ของออปชั่นสไตล์ยุโรปมีความซับซ้อนน้อยกว่า ส่งผลให้โดยทั่วไป Premium (ราคา) ของ European-style Options มักจะต่ำกว่า American-style Options ที่มีเงื่อนไขเหมือนกัน เนื่องจากขาดมูลค่าของ "สิทธิ์ในการใช้สิทธิ์ก่อนกำหนด" นั่นเอง
Key Player/ตัวขับเคลื่อน: SET50 Index Options ในตลาด TFEX
สำหรับนักลงทุนไทย การทำความเข้าใจ European Options มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสินทรัพย์อนุพันธ์หลักอย่าง SET50 Index Options ใน TFEX ถูกกำหนดให้มีรูปแบบการใช้สิทธิ์เป็น European โดยมีจุดเด่นและสถิติที่น่าสนใจดังนี้
- SET50 Index Options ใช้ดัชนี SET50 ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง 50 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นสินทรัพย์อ้างอิง
- การชำระราคาเป็นเงินสด (Cash Settlement): เมื่อถึงวันหมดอายุ หากสัญญาอยู่ในสถานะ In-The-Money กำไร/ขาดทุนจะถูกชำระเป็นเงินสดเข้าบัญชีทันที โดยไม่มีการส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิง (ตัวดัชนี)
- มีกลยุทธ์ที่เหมาะกับทุกสภาพตลาด: SET50 Index Options ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้น (Long Call) และตลาดขาลง (Long Put) หรือสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนเพื่อทำกำไรในตลาดไซด์เวย์ เช่น การขาย Options (Short Straddle/Strangle) ซึ่งเป็นความสามารถที่การซื้อขายหุ้นแบบเดิมให้ไม่ได้ โดยความผันผวนของดัชนี SET50 ในช่วงที่ผ่านมาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของมูลค่าออปชั่น
โอกาสใน TFEX กับ SET50 Index Options
หากคุณเป็นนักลงทุนที่ต้องการโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ด้วยความเสี่ยงที่จำกัด SET50 Index Options คือผลิตภัณฑ์ที่ InnovestX แนะนำให้ศึกษา
การลงทุนใน SET50 Index Options ผ่าน TFEX ช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ได้หลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น:
- การเก็งกำไรในทิศทางดัชนี (Speculation): ซื้อ Call Options เมื่อคาดว่าดัชนี SET50 จะปรับขึ้น หรือซื้อ Put Options เมื่อคาดว่าดัชนีจะปรับลง โดยมีความเสี่ยงสูงสุดจำกัดแค่ Premium ที่จ่ายไป
- การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): ใช้ Put Options เพื่อป้องกันพอร์ตหุ้นขนาดใหญ่จากความผันผวนของตลาดโดยรวม โดยไม่ต้องขายหุ้นออกไป
- การรับรู้รายได้จากพรีเมียม (Income Strategy): การขาย Options (Short Call/Short Put) เพื่อรับ Premium เข้ากระเป๋า ในกรณีที่ตลาด Sideway หรือเคลื่อนไหวไม่มาก (แต่การขาย Options มีความเสี่ยงขาดทุนไม่จำกัด ควรศึกษาให้เข้าใจก่อน)
ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ง่ายๆ บนแอปพลิเคชัน InnovestX ที่เชื่อมต่อตรงกับตลาด TFEX
ตารางหรือรูปภาพเปรียบเทียบการลงทุน
|
ลักษณะการลงทุน |
ซื้อขายหุ้น/ETF (Traditional) |
SET50 Index Options (TFEX) |
|
สินทรัพย์อ้างอิง |
หุ้นรายตัว/กองทุน ETF |
ดัชนี SET50 |
|
โอกาสทำกำไร |
เน้นตลาดขาขึ้นเป็นหลัก |
ตลาดขาขึ้น, ขาลง, ไซด์เวย์ |
|
รูปแบบการใช้สิทธิ์ |
ไม่มี (ซื้อ/ขายสินทรัพย์จริง) |
European (ใช้สิทธิ์เฉพาะวันหมดอายุ) |
|
ความเสี่ยงสูงสุด (ผู้ซื้อ) |
สูญเสียเงินต้นทั้งหมด |
จำกัดแค่ Premium ที่จ่ายไป(กรณีซื้อ Options) |
|
เงินลงทุนเริ่มต้น |
สูง (ตามราคาหุ้นเต็มจำนวน) |
ต่ำ (จ่ายเพียง Premium) |
สรุปมุมมองนักลงทุน
ไม่ว่าจะเป็น American Options ที่ยืดหยุ่นสูง หรือ European Options ที่ต้องรอจังหวะสุดท้าย หัวใจสำคัญของการลงทุนใน Options คือการเข้าใจ "สิทธิ์" และ "ความเสี่ยง" ที่มาพร้อมกับมัน
สำหรับนักลงทุนไทย การทำความเข้าใจ SET50 Index Options ที่เป็น European-style และซื้อขายได้ง่ายใน TFEX เป็นประตูสู่การกระจายความเสี่ยง (Diversification) และการสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด การใช้ Options ที่มีรูปแบบการชำระราคาเป็นเงินสดและมีความเสี่ยงสูงสุดจำกัด (สำหรับผู้ซื้อ) เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรและการบริหารความเสี่ยงในระยะยาว
การลงทุนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อหุ้นแล้วรอโตอีกต่อไป โลกของอนุพันธ์ได้มอบเครื่องมือที่ทรงพลังให้เราเข้าถึงโอกาสทำกำไรและบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านบทความการใช้สิทธิ์ US Options ได้ที่
ที่มา ข้อมูลอ้างอิง:
- SET50 Index Options Contract Specification (TFEX): https://www.tfex.co.th/th/products/equity/set50-index-options
- ความแตกต่างระหว่าง American และ European Options (CME Group): https://www.cmegroup.com/education/courses/introduction-to-options/understanding-the-difference-european-vs-american-style-options.html
🚀 ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX
- เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
- Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน US Futures and Options มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจึงไม่เหมาะสมกับทุกคน การซื้อขาย Options ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงที่มูลค่าสัญญาจะลดลงตามเวลา (Time decay) ความเสี่ยงที่ท่านอาจสูญเสียเงินที่จ่ายเพื่อซื้อสิทธิ์ในตอนแรก (ค่าพรีเมียม) ทั้งหมด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
