Keyword
Derivatives

กลยุทธ์ Short Futures เมื่อ SET50 Index อ่อนแรง เทคนิคจับจังหวะ Pullback – การจัด Position Size อย่างมืออาชีพ

25 Jul 25 9:57 AM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน2
สรุปสาระสำคัญ

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะ "อ่อนแรง" นักลงทุนหลายคนมักลังเลว่าจะ “พักก่อน” หรือ “หาจังหวะเข้าทำกำไร” ซึ่งความจริงแล้ว ตลาดขาลงก็เป็นโอกาสทำเงินได้เช่นกัน หากมีระบบที่ชัดเจนและควบคุมความเสี่ยงได้ดี บทความนี้จะพาคุณไปดูภาพรวมตลาดช่วงอ่อนแรง เทคนิคจับจังหวะ Pullback ที่ใช้ได้จริง และวิธีบริหาร Position Size เพื่อให้กลยุทธ์ Short Futures ทำงานได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

  1. มองภาพใหญ่: เมื่อใดที่ตลาดเข้าสู่ภาวะ “อ่อนแรง”

ก่อนจะเทรดฝั่ง Short เราต้องรู้ก่อนว่า “ตลาดกำลังอ่อนแรงจริงหรือไม่” โดยพิจารณาจากพฤติกรรมราคาและสภาพแวดล้อมของตลาด

 

สัญญาณของตลาดอ่อนแรงมีอะไรบ้าง?

  • ดัชนีทำ “Lower High” และ “Lower Low” ต่อเนื่อง
    แสดงถึงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน การดีดตัวทุกครั้งไม่สามารถทำจุดสูงใหม่ได้ และทุกครั้งที่ลง ทำจุดต่ำใหม่
  • หลุดแนวรับสำคัญ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน
    เมื่อราคาลงต่ำกว่าเส้นเฉลี่ยที่นักลงทุนมักใช้เป็นแนวรับ เช่น EMA50 หรือ EMA100 แปลว่าโมเมนตัมเริ่มเปลี่ยนเป็นลบ
  • Volume แผ่วในช่วงดีดขึ้น แต่พุ่งแรงในวันที่ลง
    เป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มขาดแรงซื้อ และแรงขายกำลังเข้ามาเป็นฝ่ายควบคุม
  • ข่าวลบสะสม เช่น ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง กำไรบจ.หดตัว
    ปัจจัยพื้นฐานย่ำแย่จะกดดันให้แนวโน้มเทคนิคเข้าสู่ขาลงได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

  1. กลยุทธ์ Short Futures: การทำกำไรจากขาลงอย่างมีแผน

Short Futures เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของนักเทรดสายเทคนิคที่ต้องการใช้ประโยชน์จากตลาดขาลง โดยเฉพาะเมื่อเห็นแนวโน้มอ่อนแรงชัดเจน

 

ข้อดีของการ Short Futures

  • ทำกำไรจากการคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับฐาน
    ไม่ต้องรอให้ตลาดฟื้นขึ้นถึงจะได้กำไร ใช้แนวโน้มขาลงให้เป็นโอกาส
  • ใช้เงินวางประกันน้อยกว่า  จำนวนเงินที่ลงทุนในหุ้น
    เปิดสถานะ Futures ใช้ Margin ประกันเพียงส่วนหนึ่งของมูลค่าสัญญา จึงใช้ทุนเริ่มต้นน้อยกว่า
  • มีความยืดหยุ่นสูง ซื้อ-ขายได้ระหว่างวัน
    Futures มีสภาพคล่องสูง เหมาะกับการเทรดเก็งกำไรแบบสั้นและปรับกลยุทธ์ทันที

 

สิ่งที่ต้องระวัง

  • ความเสี่ยงสูงกว่าฝั่ง Long เนื่องจากราคาลงจำกัด แต่ขึ้นได้ไม่จำกัด
    ตลาดอาจเด้งแรงจากข่าวดีหรือแรงซื้อแบบ Panic Buying ได้ตลอดเวลา
  • ต้องใช้ Stop Loss อย่างเคร่งครัด
    เพื่อป้องกันการขาดทุนหนักเมื่อราคาวิ่งสวนทาง
  • ไม่ควร Short "สวนเทรนด์ใหญ่" หากแนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้น
    ต้องแยกให้ออกว่าเป็นการพักตัวในขาขึ้น หรือเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มจริง ๆ

 

ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะ

  • S50 Futures – เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความคล่องตัวสูง
  • SET50 Options (Long  Put) – จำกัดความเสี่ยงด้วย Premium ที่จ่าย

 

  1. เทคนิคจับจังหวะ Pullback: ไม่ใช่แค่เดาราคา แต่ต้องมีเหตุผล

Pullback คือโอกาสทองในการ Short ต้นทุนดี เพราะตลาดที่อ่อนแรงมักจะดีดกลับชั่วคราวก่อนจะลงต่อ

วิธีดู Pullback ที่มีคุณภาพ

  • ราคาดีดขึ้นใกล้เส้นค่าเฉลี่ย เช่น EMA20 หรือ EMA50 แล้วเริ่มชะลอ
    ใช้เส้นเฉลี่ยเป็นแนวต้านจิตวิทยา เพื่อรอให้ราคาทดสอบแล้วอ่อนแรง
  • เกิดแท่งเทียนกลับตัว เช่น Shooting Star หรือ Bearish Engulfing
    เป็นสัญญาณว่าแรงซื้อหมด และแรงขายกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม
  • ใช้ Fibonacci Retracement 50–61.8% เพื่อหาโซน Short
    โซนยอดฮิตที่นักเทรดทั่วโลกจับตา มักเกิดแรงขายในบริเวณนี้
  • ดู Volume ประกอบ: ดีดขึ้นแต่ Volume ลดลง
    แสดงว่าแรงซื้ออ่อน ไม่มีความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่

 

22.JPG

ภาพประกอบจาก EfinanceThai

ตัวอย่าง:
SET50 หลุด 917 จุด ลงไปที่ 880.10 จุด ก่อนจะดีดขึ้นมาที่ 913 จุด ชนแนว EMA50 เป็นจุดที่มีเหตุผลในการเปิด Short และตั้ง Stop Loss ที่เหนือ 923 จุด และ ปิดShort ทำกำไรที่ 883  จุด เป็นต้น

 

  1. การจัด Position Size: เทคนิคที่มืออาชีพไม่มองข้าม

การจัดขนาดสัญญา (Position Size) คือหัวใจของการควบคุมความเสี่ยง หากผิดทาง ขาดทุนต้องไม่กระทบพอร์ตหนัก

แนวคิด Risk-Based Position Sizing

  • กำหนด %Risk ต่อการเทรด เช่น 1–2% ของเงินทุน
    หากพอร์ต 100,000 บาท การขาดทุนต่อเทรดไม่ควรเกิน 1,000–2,000 บาท
  • หาจุด Stop Loss ที่ชัดเจน
    เช่น ถ้าราคาเข้า Short ที่ 765 จุด และ Stop ที่ 770 จุด = 5 จุด
  • คำนวณจำนวนสัญญาตามสูตร:
    Position Size = เงินที่ยอมขาดทุน ÷ (จุด Stop x Tick Value)

ตัวอย่าง:

  • เงินทุน 100,000 บาท
  • รับความเสี่ยง 2% = 2,000 บาท
  • Stop Loss = 5 จุด / Tick = 200 บาท
    → Loss ต่อสัญญา = 1,000 บาท → เปิดได้ 2 สัญญา

 

  1. ตัวอย่างแผนเทรด: วางแผนแบบมีวินัย

การมีแผนชัดเจนจะทำให้เทรดมีวินัย ไม่หลุดอารมณ์ ไม่ลังเลเวลาตลาดเหวี่ยงแรง

สถานการณ์สมมุติ:

  • SET50 อ่อนแรง หลุด 917จุด → แนวโน้มเริ่มเป็นขาลง
  • ดีดกลับมาทดสอบ EMA50 ที่ 913 จุด

แผนเทรด:

รายการ

     S50U25

จุดเข้า Short

     913

จุดตัดขาดทุน

     923

จุดทำกำไร

     883

ขนาดสัญญา

   1 สัญญา

RR Ratio

  3:1 (30 จุด : 10 จุด)

 

ผลลัพธ์:

  • ถ้าเทรดสำเร็จ = กำไร 6,000 บาท
  • ถ้าผิดทาง = ขาดทุนจำกัดที่ 2,000 บาท

หมายเหตุ : กำไร/ขาดทุน จากในบทความนี้ยังไม่ได้รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

 

  1. สรุป: เล่นขาลงก็ได้เปรียบ ถ้าเล่นอย่างมีระบบ

Short Futures ไม่ได้มีไว้แค่ “สวนกระแส” แต่เป็นเครื่องมือสำหรับนักเทรดที่รู้จักมองตลาดตามแนวโน้มจริง ๆ และวางแผนเทรดอย่างมีวินัย

Checklist สำหรับนักเทรด Short Futures:

 - ตลาดอ่อนแรงจริงหรือแค่พักฐาน ดูจากโครงสร้างราคา, เส้นค่าเฉลี่ย, Volume, และข่าวประกอบ

มีสัญญาณ Pullback ที่ชัดเจน ใช้เทคนิคเพื่อรอจังหวะเข้าจุดที่ “เสี่ยงต่ำ-ผลตอบแทนสูง”

 - วางแผน Stop Loss & Target ก่อนเข้าเทรด ห้ามเทรดก่อนรู้ว่า “จะตัดขาดทุนตรงไหนหากผิดทาง และ ปิดทำกำไรที่เท่าไหร่” กำหนด Risk Reward Ratio ทุกครั้ง

 - จัดขนาดสัญญาตามเงินทุน ไม่เทรดเปิดสัญญามากเกินกว่าความเสี่ยงที่พอร์ตจะรองรับไหว แม้มั่นใจ ต้องมีวินัยทุกครั้ง

เขียนแผน – เทรดตามแผน – บันทึกผล เพื่อพัฒนาแผนเทรดให้ดีขึ้นในระยะยาว การบันทึกผลการเทรดจะช่วยทำให้เรารู้ความอัตราความแม่นยำ และกำไร/ขาดทุนต่อครั้งของการเทรด ซึ่งมีความสำคัญในการใช้พัฒนา การตัดสินใจ และปรับปรุง จุดทำกำไร/ตัดขาดทุนให้เหมาะกับการเทรดได้มากขึ้น

 

 

หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับ Futures หรือยังไม่แน่ใจว่ากลไกการทำกำไรจากการ “Short” ทำงานอย่างไร แนะนำให้อ่านบทความ “เริ่มต้นเทรด Futures ต้องรู้อะไรบ้าง” เพื่อเข้าใจหลักการพื้นฐาน เช่น การเปิดสถานะ Long/Short การคำนวณกำไรขาดทุน Leverage และ Margin ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนนำไปใช้กับกลยุทธ์เทรดจริง  

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/product-basic-knowledge/tfex-derivatives/derivatives-tfex-25072025

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่ม เรื่องกราฟแท่งเทียน
https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/easyfinance/start-your-first-investment/guide-to-reading-candlestick-charts

 

TFEX

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน

 

 

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5