Keyword
Derivatives

ค่าเงินเยนอ่อนต่อเนื่อง เปิดโอกาสใหม่ในการเทรดด้วย JPY/THB Futures

6 Oct 25 5:52 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน1
สรุปสาระสำคัญ

หลังจาก Sanae Takaichi ชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP และเตรียมขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ตลาดต่างประเทศต่างจับตานโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ถูกเรียกว่า “Sanaenomics”
นโยบายนี้เน้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Pro-Growth) ด้วยการใช้นโยบายการคลังเชิงรุก (Fiscal Expansion) ควบคู่กับ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย (Monetary Easing) ซึ่งจะส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำ และ ค่าเงินเยน (JPY) มีแนวโน้ม อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาท (THB)

ปัจจัยหนุนค่าเงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่อง

 

  • นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่: รัฐบาล Takaichi เตรียมใช้งบประมาณเสริมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษีน้ำมันและสนับสนุนรายได้ครัวเรือน
  • BoJ คงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ: คาดว่า Bank of Japan จะ ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปถึงปี 2026 เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • ค่าเงินเยนอ่อน = ผู้ส่งออกญี่ปุ่นได้เปรียบ: การอ่อนค่าของเยนช่วยเพิ่มความสามารถแข่งขันของผู้ส่งออกญี่ปุ่น แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ประกอบการไทยที่นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นจะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง

 

Goldman Sachs Japan มองว่า “ชัยชนะของ Takaichi” จะหนุน sentiment หุ้นญี่ปุ่น และกดดันค่าเงินเยนให้อยู่ในโซนอ่อนค่าต่อไป

อ่านมุมมองและบทความฉบับเต็มได้ที่นี่
Update: Sanae Takaichi ชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP เตรียมขึ้นเป็นนายกฯ ญี่ปุ่นหญิงคนแรก – เปิดยุค “Sanaenomics”

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/strategy-insight/multi-asset-strategy/special-report-global-multi-asset-strategy/update-special-issue-20251006

 

นักลงทุนและผู้ประกอบการไทยควรเตรียมรับมือกับค่าเงินJPY/THBอย่างไร

ความผันผวนของค่าเงินเยนส่งผลโดยตรงต่อ

  • ผู้นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น (รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วัตถุดิบการผลิต ฯลฯ)
  • ผู้ส่งออกสินค้าหรือบริการไปญี่ปุ่น เช่น ท่องเที่ยว อาหาร เครื่องประดับ
  • นักลงทุนที่มีพอร์ตสินทรัพย์สกุลเยน เช่น หุ้นญี่ปุ่น หรือกองทุนญี่ปุ่น

 

หากคาดว่า เยนจะอ่อนค่าต่อ นักลงทุนและผู้ประกอบการสามารถใช้ TFEX JPY/THB Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน หรือใช้เก็งกำไรจากทิศทางค่าเงินได้

 

กลยุทธ์การใช้ JPY/THB Futures ตามมุมมองค่าเงิน

มุมมองต่อค่าเงินเยน

กลยุทธ์ที่เหมาะสม

ตัวอย่างสถานการณ์

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

มองว่า “เยนอ่อนค่า”

Short JPY/THB Futures

คาดว่า JPY/THB

จะลดจาก 0.225 → 0.220

ได้กำไรเมื่อเยนอ่อนค่าลง

มองว่า “เยนแข็งค่า”

Long JPY/THB Futures

คาดว่า JPY/THB

จะเพิ่มจาก 0.225 → 0.230

ได้กำไรเมื่อเยนแข็งค่ากลับมา

 

ตัวอย่าง: ผู้นำเข้าชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นที่ต้องจ่ายเป็นเยนในอีก 3 เดือน มองว่าเยนอาจอ่อนต่อ สามารถ “Short JPY/THB Futures” เพื่อ Lock อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้
 ในทางกลับกัน หากเป็นผู้ส่งออกสินค้าหรือรับชำระเงินเป็นเยน มองว่าเยนอาจแข็ง สามารถ “Long JPY/THB Futures” เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเยนแข็งได้

 

กรณีศึกษาที่ 1: ผู้ส่งออกไทยป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเยนอ่อน

สถานการณ์

  • ผู้ส่งออกไทย จะได้รับชำระค่าสินค้า 10,000,000 เยน จากลูกค้าญี่ปุ่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า
  • ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ JPY/THB = 0.2250 (หรือ 100 เยน = 22.50 บาท)
  • ผู้ส่งออกมีมุมมองว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง เช่น จาก 0.2250 → 0.2200
  • หากเป็นจริง ผู้ส่งออกจะได้รับเงินบาทน้อยลง (เพราะต้องแลกเยนที่อ่อนค่ากว่าเดิม)

 

 เป้าหมาย: ป้องกันความเสี่ยงไม่ให้รายรับเป็นเงินบาทลดลง จึงต้องการ “Lock” อัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า

 กลยุทธ์ที่เหมาะสม: Short JPY/THB Futures เพราะผู้ส่งออก “ถือสินทรัพย์เป็นเยน” (จะได้รับเยนในอนาคต) และมีความเสี่ยงว่าเยนจะ “อ่อนค่า”  ทำให้เงินบาทที่ได้รับลดลง ดังนั้น ควร “Short” (ขายล่วงหน้า) JPY/THB Futures เพื่อป้องกันมูลค่าของเยนที่ถืออยู่ไม่ให้ลดลง

 

คำนวณจำนวนสัญญาที่ต้องใช้

มูลค่าเงินที่ต้องการป้องกัน

10,000,000 เยน

ขนาดสัญญา JPY/THB Futures

100,000 เยน ต่อสัญญา

จำนวนสัญญาที่เหมาะสม

10,000,000 ÷ 100,000 = 100 สัญญา

 

สมมติราคา Futures ปัจจุบัน

  • ราคา JPY/THB Futures (เดือนครบอายุอีก 3 เดือน) = 22.25/100 เยน หรือ 0.2250 บาทต่อ 1 เยน

 

เปรียบเทียบ 2 สถานการณ์เมื่อครบกำหนด 3 เดือน

กรณี

Spot JPY/THB

เงินที่ผู้ส่งออกได้รับ (10 ล้านเยน)

ผลจากสถานะ Short Futures

ผลรวมสุทธิ (บาท)

เยนอ่อนค่าลง (ตามคาด)

0.2200

ได้เงินจริง 2,200,000 บาท (ลดลงจาก 2,250,000 บาท)

กำไรจาก Futures

 = (0.2250 - 0.2200) × 100 เยน × 100 สัญญา × 1,000

= + 50,000 บาท

 2,250,000

เยนแข็งค่าขึ้น (สวนทางกับที่คาด)

0.2300

ได้เงินจริง 2,300,000 บาท (เพิ่มขึ้นจาก 2,250,000 บาท)

ขาดทุนจาก Futures

= (0.2250 - 0.2300) × 100 × 100 × 1,000

 = – 50,000 บาท

 2,250,000

 ไม่ว่าค่าเงินเยนจะอ่อนหรือแข็ง ผู้ส่งออกยังคงได้รับเงินบาทใกล้เคียง 2.25 ล้านบาท เพราะได้ “ล็อกอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า” ด้วยการ Short Futures

 

กรณีศึกษาที่ 2: ผู้นำเข้าไทยป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเยนแข็งค่า

สถานการณ์

  • ผู้นำเข้าไทย ต้องชำระค่าสินค้า 10,000,000 เยน ให้กับซัพพลายเออร์ญี่ปุ่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า
  • ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ JPY/THB = 0.2250 (100 เยน = 22.50 บาท)
  • ผู้นำเข้ามีมุมมองว่า ค่าเงินเยนไม่น่าจะอ่อนลงไปกว่านี้แล้ว และอาจ แข็งค่ากลับขึ้น เช่น จาก 0.2250 → 0.2300
  • หากเยนแข็งค่าจริง → ผู้นำเข้าจะต้องใช้เงินบาทมากขึ้นในการซื้อเยนเพื่อชำระค่าสินค้า

 

 เป้าหมาย: ป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเยนแข็งค่า โดยการ Lock ต้นทุนเงินบาทไว้ล่วงหน้า

 กลยุทธ์ที่เหมาะสม: Long JPY/THB Futures เพราะผู้นำเข้ามี ภาระต้องซื้อเยนในอนาคต ถ้าเยนแข็งค่าจะต้องใช้เงินบาทมากขึ้น ดังนั้นควร “Long JPY/THB Futures” เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเยนแข็งค่า หากเยนแข็งค่าจริง ราคาของสัญญา Futures จะเพิ่มขึ้น ทำให้ได้กำไรจาก Futures มาชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นใน Spot

 

คำนวณจำนวนสัญญาที่ต้องใช้

มูลค่าเงินที่ต้องจ่าย

10,000,000 เยน

ขนาดสัญญา JPY/THB Futures

100,000 เยน ต่อสัญญา

จำนวนสัญญาที่เหมาะสม

10,000,000 ÷ 100,000 = 100 สัญญา

 

สมมติราคา Futures ปัจจุบัน

  • ราคา JPY/THB Futures (ครบอายุในอีก 3 เดือน): 22.25 บาท/100 เยน หรือ 0.2250 บาทต่อ 1 เยน

 

เปรียบเทียบ 2 สถานการณ์เมื่อครบกำหนด 3 เดือน

กรณี

Spot JPY/THB

เงินที่ต้องจ่ายจริง

(10 ล้านเยน)

ผลจากสถานะ Long Futures

ผลรวมสุทธิ (บาท)

เยนแข็งค่าขึ้น (ตามคาด)

0.2300

ต้องจ่าย 2,300,000 บาท (มากขึ้น 50,000 บาท)

ได้กำไรจาก Futures = (0.2300 - 0.2250) × 100 เยน × 100 สัญญา × 1,000 = + 50,000 บาท

 2,250,000

เยนอ่อนค่าลง (สวนทางคาด)

0.2200

ต้องจ่าย 2,200,000 บาท (น้อยลง)

ขาดทุนจาก Futures = (0.2200 - 0.2250) × 100 × 100 × 1,000 = – 50,000 บาท

2,250,000

ไม่ว่าค่าเงินจะอ่อนหรือแข็ง ผู้นำเข้าจะมีต้นทุนเงินบาทที่ใกล้เคียง 2.25 ล้านบาท เพราะได้ “ล็อกอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า” ด้วย Futures

 

กรณีศึกษาที่ 3: เก็งกำไรค่าเงินเยนอ่อน ผ่าน JPY/THB Futures

ช่วงปลายปี นักลงทุนไทยบางส่วนมองว่า ค่าเงินเยน (JPY)
มีแนวโน้มจะ อ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาท (THB)

 

 เป้าหมายของนักลงทุน

ต้องการเก็งกำไรจากการอ่อนค่าของเยน และเตรียม แลกเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นในปลายปี
โดยวางแผนจะแลกเงิน 1,000,000 เยน

 

กลยุทธ์ที่ใช้

เปิดสถานะ Short JPY/THB Futures (ขายล่วงหน้า)
เพราะหากเยนอ่อนค่าจริง ราคาสัญญา Futures จะลดลง นักลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา

 

 สมมติราคาอ้างอิง

  • ราคา JPY/THB Futures ปัจจุบัน = 0.2250 บาทต่อ 1 เยน
  • ขนาดสัญญา = 100,000 เยนต่อสัญญา
  • ต้องการแลก 1,000,000 เยน → เทียบเท่ากับ 10 สัญญา

 ถ้ามองถูกทาง (เยนอ่อนค่าจริง)

สมมติอีก 3 เดือนข้างหน้า ค่าเงินเยนอ่อนจาก 0.2250 0.2150
ราคาสัญญา Futures ก็ลดลงตาม ทำให้ผู้ที่ Short ไว้ล่วงหน้า ได้กำไร

  • กำไรต่อสัญญา = (0.2250 - 0.2150) × 100,000 = 1,000 บาท
  • ถือ 10 สัญญา → กำไรรวม 10,000 บาท

 

นอกจากนั้น เมื่อถึงเวลาต้องแลกเงินจริงค่าเงินเยนที่อ่อนลงจาก 0.225 → 0.215 หมายความว่าเงินบาทจะแลกได้เยนมากขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้าจึงได้ทั้ง กำไรจาก Futures และ อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า

 สรุป: ถูกทาง = ได้กำไรจาก Futures + ได้แลกเงินเยนมากขึ้น

 

 แต่ถ้ามองผิดทาง (เยนแข็งค่ากลับ)

สมมติค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นจาก 0.2250 0.2300
ราคาสัญญา Futures ก็ปรับขึ้นเช่นกัน → ผู้ที่ Short ไว้จะ ขาดทุน

  • ขาดทุนต่อสัญญา = (0.2250 - 0.2300) × 100,000 = – 500 บาท
  • ถือ 10 สัญญา → ขาดทุนรวม – 5,000 บาท

พร้อมกันนั้น เมื่อถึงเวลาต้องแลกเงินจริงค่าเงินเยนที่แข็งขึ้น หมายความว่าเงินบาทเดิมจะแลกได้เยนน้อยลงจึงเสียโอกาสทั้งจาก Futures ขาดทุน และ ได้เยนน้อยลง

 สรุป: ผิดทาง = ขาดทุนจาก Futures + แลกเงินเยนน้อยลง

หมายเหตุ: กำไร/ขาดทุนจากตัวอย่างในบทความนี้ยังไม่ได้รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

 

รายละเอียดสัญญา JPY/THB Futures 

รายการ

รายละเอียด

Underlying Asset

อัตราแลกเปลี่ยน JPY/THB

ชื่อย่อสัญญา

“JPY”

ขนาดสัญญา (Contract Size)

100,000 เยน / สัญญา

เดือนที่สัญญาสิ้นสุด (Expiration Months)

เดือนปฏิทินต่อเนื่อง 3 เดือนใกล้สุด + เดือนสุดท้ายของไตรมาสถัดไป (มี.ค. / มิ.ย. / ก.ย. / ธ.ค.)

ราคาเสนอซื้อขาย

เป็นเงินบาทต่อ 100 เยน (THB per 100 JPY) โดยมีจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง

Tick Size / ช่วงราคาขั้นต่ำ

0.01 บาท ต่อ 100 เยน → คิดเป็นมูลค่า 10 บาท / สัญญา

Daily Price Limit

±2.5% ของราคาชำระราคาล่าสุด (Settlement Price)
– หากมีการซื้อขายที่ Ceiling / Floor → หยุดการซื้อขายชั่วคราว แล้วขยาย limit เป็น ±5% จากราคาที่ใช้ชำระล่าสุด

เวลาซื้อขาย (Trading Hours / Session Times)

– Pre-open: 09:15–09:45 น.
– ช่วงเช้า: 09:45–12:30 น.
– ช่วงบ่าย: (Pre-session) 13:15–13:45 น. / (ตลาดหลัก) 13:45–16:55 น.
– ช่วงกลางคืน (Night Session): 18:45–18:50 น. / 18:50 น. ถึง 03:00 น. ของวันถัดไป

Position Limit / การจำกัดฐานะสุทธิ

ห้ามมีฐานะสุทธิ (Net Position) เกิน 10,000 สัญญา (ในเดือนนั้นหรือรวมทั้งหมด)

วันซื้อขายวันสุดท้าย (Last Trading Day)

เป็นวันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาครบอายุ
– ช่วงเวลาในวันสุดท้าย : สิ้นสุดเวลา 11:00 น.

การชำระราคา / การส่งมอบ

ชำระเป็นเงินบาท (Cash Settlement) ไม่มีการส่งมอบเงินเยนจริง

ที่มา: https://www.tfex.co.th/th/products/currency/jpy-thb-futures/contract-specification

 

โดยสรุป JPY/THB Futures เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนและผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงหรือสร้างโอกาสจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งออกที่ต้องการป้องกันรายรับไม่ให้ลดลงเมื่อเยนอ่อนค่า ผู้นำเข้าที่ต้องการล็อกต้นทุนเมื่อเยนแข็งค่าขึ้น หรือแม้แต่นักลงทุนทั่วไปที่มองเห็นจังหวะเก็งกำไรจากทิศทางค่าเงิน ด้วยขนาดสัญญาที่ไม่สูงและการชำระราคาเป็นเงินบาท ทำให้ JPY/THB Futures เป็นทางเลือกที่สะดวก คล่องตัว และตอบโจทย์ทั้งการป้องกันความเสี่ยงและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในยุคที่ค่าเงินผันผวนสูง

 

TFEX

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5