
ในช่วงที่ค่าเงินเยนเทียบบาท (JPY/THB) อ่อนลงมาใกล้ระดับ 20 บาทต่อ 100 เยน ทั้งที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 30 ปี ตลาดกำลังส่งสัญญาณว่าพื้นฐานเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเปราะบาง ทั้งเงินเฟ้อที่ยังสูง เศรษฐกิจชะลอ และภาระหนี้สาธารณะที่จำกัดความสามารถในการขึ้นดอกเบี้ยต่อ บทความนี้อธิบายเหตุผลเชิงโครงสร้างที่ทำให้เยนยังอ่อน พร้อมเชื่อมโยงผลกระทบต่อคนไทย และเสนอแนวทางบริหารความเสี่ยงค่าเงินผ่านเครื่องมือ TFEX อย่างเป็นระบบ
ช่วงปลายปีนี้ หลายคนคงได้เห็นตัวเลขค่าเงินเยนเทียบบาทที่อ่อนต่อเนื่อง จนเคลื่อนไหวลงมาที่โซนประมาณ 20 บาทต่อ 100 เยน ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีข่าวว่า “ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพิ่งขึ้นดอกเบี้ยมากที่สุดในรอบสามทศวรรษ”
คำถามที่ตามมาคือ หากดอกเบี้ยขึ้นแล้ว เงินควรแข็งค่า ทำไมค่าเงินเยนกลับอ่อนลงยิ่งกว่าเดิม
คำตอบคือ เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญโจทย์ที่ซับซ้อนกว่าที่ตำราอธิบายไว้มาก การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นฟื้นทันที เพราะตลาดกำลังมองเห็นข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ เศรษฐกิจที่ชะลอ หนี้สาธารณะสูง และแรงกดดันในตลาดการเงินโลกที่สะท้อนว่า เยนอาจยังไม่พร้อมแข็งค่ากลับได้ง่าย
บทความนี้จะเล่าแบบเป็นระบบ เข้าใจง่าย และเชื่อมโยงมุมมองไปยังเครื่องมือ TFEX ที่ใช้รับมือความผันผวนได้จริง
1) ดอกเบี้ยขึ้น แต่แรงไม่พอให้ตลาดเชื่อว่าญี่ปุ่นจะกลับมาน่าสนใจ
แม้ BOJ จะปรับดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูง ดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในแดนลบ ซึ่งหมายความว่า “เงื่อนไขทางการเงินยังผ่อนคลายอยู่มาก”
ตลาดจึงมองการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ว่าเป็นเพียง “การปรับทิศทางเชิงสัญลักษณ์” มากกว่าการกลับลำแบบจริงจัง นักลงทุนจึงยังไม่มั่นใจว่าญี่ปุ่นจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ไกลพอจะทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าไป
2) ญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยในจังหวะที่เศรษฐกิจกำลังชะลอ
หนึ่งในประเด็นที่ทำให้ตลาดกังวลคือ การขึ้นดอกเบี้ยเกิดขึ้นในช่วงที่ตัวเลขจีดีพีกำลังอ่อนแรง การขึ้นดอกเบี้ยในสถานการณ์นี้เหมือนการเหยียบเบรกในวันที่เครื่องยนต์เริ่มสะดุด ยิ่งทำให้ตลาดตั้งคำถามว่า “ญี่ปุ่นรับแรงกระแทกนี้ไหวหรือไม่”
จังหวะที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างเงินเฟ้อที่กดดัน และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ ทำให้นักลงทุนมองว่า เยนอาจยังไม่แข็งในระยะสั้น แม้ BOJ จะเลือกปรับนโยบายแล้วก็ตาม
3) หนี้สาธารณะสูงที่สุดในโลก ทำให้ BOJ ไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้มากนัก
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงที่สุดในโลก เมื่อดอกเบี้ยขยับขึ้น ยีลด์พันธบัตรก็ปรับสูงตาม ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยที่รัฐบาลต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยภาระการคลังที่ตึงตัวแบบนี้ ตลาดจึงไม่เชื่อว่า BOJ จะสามารถขึ้นดอกเบี้ยไปได้อีกมาก เพราะยิ่งขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งเพิ่มภาระทางการคลังทันที
ข้อจำกัดนี้เองทำให้ค่าเงินเยนยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง
4) ทำไมเยนต่อบาทถึงอ่อนลงมากเป็นพิเศษ
การเคลื่อนไหวของ JPY/THB ไม่ได้สะท้อนเฉพาะสถานการณ์ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เป็นผลลัพธ์ของสมการ 3 ชั้น คือ USD/JPY, USD/THB และความสัมพันธ์ระหว่างดอลลาร์กับตลาดเกิดใหม่
หากเยนอ่อนเทียบดอลลาร์ และบาทมีช่วงเวลาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ก็ทำให้ค่าเงิน JPY/THB ถูกกดลงสองเด้ง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ผลกระทบที่คนไทยควรรู้
นักท่องเที่ยวไทย
การแลกเงินอาจถูกลง แต่ค่าครองชีพในญี่ปุ่นหลายอย่างปรับสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนเที่ยวจริงไม่ได้ลดลงมากเท่าที่ตัวเลขค่าเงินบอก
ผู้ประกอบการ
ผู้นำเข้าหรือผู้ที่ต้องจ่ายเป็นเงินเยนได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง แต่ผู้ที่รับรายได้เป็นเยนกลับต้องเผชิญความเสี่ยงจากรายได้ที่แปลงกลับเป็นบาทน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุน
ตลาดค่าเงินกำลังเข้าสู่ช่วงที่ผันผวนมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ดี
มุมมองเชิงกลยุทธ์: ใช้ TFEX Futures บริหารความเสี่ยงค่าเงินได้อย่างไร
ในช่วงที่ค่าเงินแกว่งแรง การมีเครื่องมือที่ช่วย “ล็อกความเสี่ยง” หรือ “หาจังหวะทำกำไรอย่างมีกรอบ” มีความสำคัญอย่างมาก
TFEX มีสองสัญญาที่เกี่ยวกับค่าเงินเยนโดยตรง
1) USDJPY Futures — เทรดภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นเทียบสหรัฐฯ
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งทิศทางเยนเทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นค่าเงินหลักที่ตลาดทั่วโลกจับตา
ใช้ได้ทั้งในจังหวะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหรือสหรัฐฯ และช่วงประชุม BOJ หรือ Fed ที่มักสร้างความผันผวนสูง
2) JPYTHB Futures — ตรงที่สุดสำหรับคนไทย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารความเสี่ยงค่าเงินเยนต่อบาทโดยตรง เช่น
เครื่องมือนี้ช่วยทำให้การวางแผนการเงินชัดเจนขึ้น ไม่ต้องลุ้นค่าเงินรายวัน
อ่านบทความสินค้าTFEX JPY/THB เพิ่มที่นี่
ค่าเงินเยนอ่อนต่อเนื่อง เปิดโอกาสใหม่ในการเทรดด้วย JPY/THB Futures
บทสรุป
แม้ญี่ปุ่นจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ตลาดยังมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีข้อจำกัดหลายด้าน ทำให้เงินทุนยังไม่ไหลกลับเข้าสู่ประเทศได้เต็มตัว ค่าเงินเยนจึงยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ หรือผู้ลงทุน การบริหารความเสี่ยงค่าเงินเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสภาวะที่ค่าเงินผันผวนสูง
เครื่องมืออย่าง USDJPY และ JPYTHB Futures บน TFEX สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนได้อย่างเป็นระบบ และช่วยให้ตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นในช่วงเวลาที่ค่าเงินเคลื่อนไหวรุนแรง
🚀 ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว
เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
ต้องการให้ผมช่วยร่างแคปชั่นสำหรับโพสต์ Facebook หรือสรุปเป็นภาพอินโฟกราฟิกจากบทความนี้ไหมครับ?