SPALI รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 2 พันลบ. (-7.1% YoY แต่ +69% QoQ) สูงกว่า INVX คาด 5% และสูงกว่าตลาดคาด 9% โดยได้รับการสนับสนุนจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลงและรายได้อื่นที่สูงขึ้นจากโครงการในออสเตรเลีย ส่งผลทำให้กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 5.98 พันลบ. (-26.7%) เรายังคงคาดการณ์ว่ารายได้ปี 2567 จะกลับมาเติบโต 7% พร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเติบโต 11.8% เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SPALI โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 23.80 บาท/หุ้น อ้างอิง PE เฉลี่ย (16 ปี) ที่ 6.9 เท่า บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 0.75 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.7% กำไรสุทธิ 4Q66 สูงกว่า INVX คาด 5% และสูงกว่าตลาดคาด 9% โดยได้รับการสนับสนุนจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลงและรายได้อื่นที่สูงขึ้น SPALI รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 2 พันลบ. (-7.1% YoY แต่ +69% QoQ) สูงกว่า INVX คาด 5% และสูงกว่าตลาดคาด 9% รายได้อยู่ที่ 1.0 หมื่นลบ. (+4.4% YoY และ +41.1% QoQ) เป็นไปตามคาด โดย 70% เกิดจากโครงการแนวราบ และ 30% เกิดจากคอนโด อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.9% ทำจุดต่ำสุดใหม่ อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายอยู่ที่ 10.9% ต่ำกว่าคาด เทียบกับ 13.7% ใน 3Q66 และ 12.9% ใน 4Q65 ในขณะที่รายได้อื่นอยู่ที่ 169 ลบ. (-53% YoY แต่ +550% QoQ) โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในออสเตรเลีย ส่งผลทำให้กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 5.98 พันลบ. (-26.7%) คงประมาณการปี 2567 ปัจจุบัน SPALI มี backlog มูลค่า 1.57 หมื่นลบ. โดย 86% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 และส่วนที่เหลืออีก 14% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568-2569 backlog ส่วนที่ใหญ่ที่สุดในปี 2567 จะมาจากโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร ที่มี backlog จำนวน 2.7 พันลบ. ซึ่งจะเริ่มโอนตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป ดังนั้นสำหรับปี 2567 เราจึงคาดการณ์รายได้รวม 3.34 หมื่นลบ. (+7.2%) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัวเล็กน้อย โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งจากโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร เราคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 6.69 พันลบ. (+11.8%) โดย 1Q67 มีแนวโน้มที่จะเป็นไตรมาสที่กำไรต่ำสุดในปี 2567 เนื่องจาก backlog โครงการแนวราบต่ำและมีคอนโดใหม่ขนาดเล็กเพียง 1 โครงการที่เริ่มโอน: ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง มูลค่า 300 ลบ. โดยขายได้แล้ว 22% ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล การเร่งเปิดโครงการใหม่และการลงทุนใหม่ในออสเตรเลียทำให้ต้องจับตาดูกระแสเงินสดและสถานะหนี้สินในปี 2567-2568 SPALI มีหุ้นกู้มูลค่า 1.5 หมื่นลบ. ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่าระดับปัจจุบันที่ 2.8% คงคำแนะนำ NEUTRAL ด้วย backlog ระดับต่ำในปี 2567-2568 และกำไรที่มีแนวโน้มอ่อนแอใน 1Q67 เราจึงคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ SPALI ไว้ที่ NEUTRAL โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 23.80 บาท/หุ้น อ้างอิง PE เฉลี่ย (16 ปี) ที่ 6.9 เท่า บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 0.75 บาท/หุ้น (อัตราการจ่ายเงินปันผล 47%) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.7% |
|||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก SPALI240221_T (1)
|