เราคาดว่า KTB จะเป็นธนาคารที่มี NIM ขยายตัวมากที่สุดและคุณภาพสินทรัพย์ทรงตัวในปี 2566 สำหรับ 2H66 เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้น NIM จะขยายตัวต่อเนื่อง credit cost จะอยู่ในระดับทรงตัว และ opex จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เรายังคงเลือก KTB เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 25 บาท เนื่องจาก 1) valuation ถูก 2) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ 3) NIM จะขยายตัวมากที่สุด ปัจจัยกระตุ้น
ผลกระทบ สำหรับ 2H66 เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้น NIM จะขยายตัวต่อเนื่อง credit cost จะอยู่ในระดับทรงตัว และ opex จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เราคาดว่ากำไร 3Q66 ของ KTB จะเพิ่มขึ้น 22% YoY (NII สูงขึ้น) และ 2% QoQ (NII สูงขึ้น, ECL สูงขึ้น, opex สูงขึ้น) สำหรับปี 2566 เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 22% โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 2% NIM ที่เพิ่มขึ้น 61 bps non-NII ในระดับทรงตัว และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น 32 bps กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เรายังคงเลือก KTB เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 25 บาท (PBV 0.8 เท่า หรือ PE ปี 2567 ที่ 8.2 เท่า) เนื่องจาก 1) valuation ถูก ที่ PBV 0.6 เท่า เทียบกับ ROE 10% และ PE 6.3 เท่า สำหรับปี 2567 2) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ 3) NIM จะขยายตัวมากที่สุด ความเสี่ยง: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง 2) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และ 3) non-NII ได้รับแรงกดดันจากตลาดทุนที่ผันผวนและแนวโน้มที่ ธปท.จะใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น |
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม KTB_HighConviction230828_T