สรุปสาระสำคัญ
งบ 4Q22 ดีเกินคาดหนุนจาก NII ที๋โต / มอง NI ชะลอตัวลงใน FY23 หลังมีแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนเงินฝากที่เพิ่ม
Bank of America เผยงบ 4Q22 ดีกว่าตลาดคาด โดยรายได้โต 11.2%YoY อยู่ที่ $24.6bn หนุนจากดอกเบี้ยรับ (Net Interest Income : NII) ที่เพิ่มขึ้น 29%YoY อยู่ที่ $14.7bn ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) เพิ่มขึ้นดีเช่นกัน 33.3%YoY อยู่ที่ 2.25 ซึ่งช่วยเยียวยารายได้ในส่วนของ IB ที่ลดลงกว่า 50%YoY ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่า NII มีแนวโน้มลดลงใน 1Q23
งบ 4Q22 ดีเกินคาดหนุนจาก NII ที๋โต / มอง NI ชะลอตัวลงใน FY23 หลังมีแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนเงินฝากที่เพิ่ม
Bank of America เผยงบ 4Q22 ดีกว่าตลาดคาด โดยรายได้โต 11.2%YoY อยู่ที่ $24.6bn หนุนจากดอกเบี้ยรับ (Net Interest Income : NII) ที่เพิ่มขึ้น 29%YoY อยู่ที่ $14.7bn ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) เพิ่มขึ้นดีเช่นกัน 33.3%YoY อยู่ที่ 2.25 ซึ่งช่วยเยียวยารายได้ในส่วนของ IB ที่ลดลงกว่า 50%YoY ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่า NII มีแนวโน้มลดลงใน 1Q23
มุมมองของ InnovestX
- เรามองว่างบ ใน 4Q22 ของ Bank of America ได้รับแรงหนุนจาก 1) NII ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและการเติบโตของสินเชื่อ 2) รายได้จากส่วน consumer banking ที่เพิ่มขึ้น 15%YoY หนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว แม้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯจะอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดีสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี รวมถึงความกังวลสภาวะเศรษฐกิจถดถอยกดดันให้ 1) ธนาคารตั้งเงินสำรองสำหรับ Credit losses เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 120% อยู่ที่ $1.1bn 2) ทิศทางตลาดทุนมีความผันผวนส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมการเทรดและรายได้จากธุรกิจ IB ยังคงลดลงใน 4Q22
- ขณะที่เรามองงบในช่วง FY23 ยังคงได้รับแรงหนุนจาก NII ที่เพิ่มขึ้นแต่ในอัตราที่ชะลอตัวลงหลังมีแรงกดดันจาก 1) แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อลดลง รวมถึงทำให้ธนาคารมีความเสี่ยงในการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นเช่นกัน 2) ต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นจากการปรับราคาใหม่และการเปลี่ยนจากเงินฝากไม่มีดอกเบี้ยเป็นมีดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าผลประกอบการจะมีแรงหนุนจาก 1) การควบคุมต้นทุนของ BAC ที่มีประสิทธิภาพกว่า Peers โดย BAC คาดค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ราว $200mn ใน 1Q23 2) ค่าธรรมเนียมจากการเทรดในตลาดทุนที่เรามองเริ่มฟื้นตัวดีในช่วง 2H23 ซึ่งจะช่วยเยียวยาการเติบโต NII ที่ชะลอตัวลงได้ โดย Bloomberg คาด NII โตชะลอตัวลงอยู่ที่ 15.9%YoY ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่ BAC ให้ไว้ว่า NII มีแนวโน้มโตลดลงใน 1Q23
- ในระยะสั้น เรายังมีมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อการลงทุนใน BAC และมอง Upside ต่อจากนี้ค่อนข้างจำกัดหลัง 1) ราคาปรับตัวขึ้นมาสูงรับประเด็นผลประกอบการ ซึ่งส่งผลให้ P/E ในปัจจุบันปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 10.8x มากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 10.5x 2) หุ้น BAC มีลักษณะ Cyclical (โดยรายได้กว่า 40% มาจาก Consumer Bank) ทำให้มีทิศทางผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วง 1H23 ซึ่งเรามองปัจจัยดังกล่าวจะยังคงกดดันหุ้น BAC ไปซักระยะก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวตามภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งเรามองว่าตอนนั้นถึงเป็นจังหวะในการเข้าลงทุนที่ให้ Risk Reward ที่คุ้มค่า โดยเราคาดว่าจะเป็นในช่วง 2H23 ที่ Forward PE อยู่ที่ 9.7 ขณะที่ในระยะยาวเรามอง BAC ยังคงน่าสนใจและควรมีติดพอร์ตเพื่อการกระจายความเสี่ยงหลัง 1) มีความได้เปรียบด้านต้นทุน ประกอบกับมีเงินลงทุนในเทคฯจำนวนมากซึ่งจะช่วยธนาคารพัฒนาธุรกิจได้ดีต่อเนื่อง 2 ) มีฐานลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะในการรับฝากเงินและการปล่อยสินเชื่อ 3) ให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นผ่าน Dividend Yield ที่ค่อนข้างมั่นคงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี FY23 อยู่ที่ระดับ 2.65 ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 40.8USD ซึ่งมี Upside 15.8% จากราคาปัจจุบัน
<br/><div style='font-size: smaller;' >
</div>