1. S&P 500 ปิดบวก รับแรงหนุนผลประกอบการแข็งแกร่ง ท่ามกลางความกังวลการค้า
2. ทรัมป์ชี้สหรัฐฯ อยู่ในสงครามการค้ากับจีน ขณะรมว.คลังเสนอพักเก็บภาษีชั่วคราว
3. สัญญาณเงินฝืดจีนเริ่มคลี่คลายในบางภาคส่วน แม้แรงกดดันด้านราคายังไม่หมดไป
4. “ทาคาอิจิ” เดินหน้ารวบรวมเสียงตั้งรัฐบาลใหม่ ก่อนโหวตเลือกนายกฯ สัปดาห์หน้า
5. RBI เตรียมแทรกแซงค่าเงินรูปี หลังอ่อนค่าใกล้หลุดระดับ 89 จากแรงเก็งกำไร
6. ทรัมป์เผย “โมดี” รับปากยุติซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หวังคลี่คลายความตึงเครียดการค้าสหรัฐฯ–อินเดีย
7. ครม. เศรษฐกิจไทยอนุมัติมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
16 October 2025
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวขึ้นท่ามกลางความผันผวน หลังนักลงทุนมองความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ–จีนยังไม่รุนแรงถึงขั้นสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.4% Nasdaq 100 เพิ่ม 0.7% และ MSCI World Index พุ่ง 0.6% นำโดยหุ้นเทคโนโลยีและชิป เช่น ASML ที่ได้แรงหนุนจากยอดขายเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์พุ่งกว่า 3% ขณะที่ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดที่ $4,209/oz น้ำมัน WTI ลดลงเล็กน้อยสู่ $58.47 นักลงทุนยังคงมองบวกต่อผลประกอบการ Q3 ของบริษัทสหรัฐฯ และคาดว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยหนุนโมเมนตัมตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
2. ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ “กำลังอยู่ในสงครามการค้า” กับจีน หลังทั้งสองประเทศขัดแย้งกันเรื่องการควบคุมการส่งออกแร่หายาก แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวย้ำว่ายังเปิดทางเจรจา ขณะที่รัฐมนตรีคลังสก็อตต์ เบสเซนต์เสนอขยายเวลาหยุดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หากจีนยอมระงับมาตรการควบคุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายเคยตกลงพักรบทางการค้า 90 วันตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนยังจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำ “ทรัมป์–สี” ที่อาจถูกยกเลิก หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเพิ่มอีก 100% ภายใน 1 พฤศจิกายน หากจีนไม่ยอมอ่อนข้อ
3. ภาวะเงินฝืดของจีนเริ่มผ่อนคลาย โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกันยายนลดลง 2.3% จากปีก่อน เทียบกับ 2.9% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ –0.2% จากราคาสินค้าอาหารที่ร่วงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าแรงกดดันเงินฝืดเริ่มผ่อนคลายในบางอุตสาหกรรม เช่น เหมืองถ่านหินและอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ หลังรัฐบาลเข้าควบคุมการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ขณะเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นแตะ 1% สูงสุดในรอบ 19 เดือน นักวิเคราะห์จาก ING มองว่า PBOC อาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในเดือนพฤศจิกายน หากการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ไม่เป็นไปตามคาด
4. ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น เดินหน้าหารือกับพรรคฝ่ายค้าน Japan Innovation Party (Ishin) เพื่อขอแรงสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า หลังพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้นำพรรค Ishin ระบุว่ายินดีโหวตหนุนหากตกลงนโยบายร่วมกันได้ ซึ่งจะทำให้ทาคาอิจิมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นนายกฯหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ด้านพรรคฝ่ายค้านหลักยังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อรวมตัวเสนอผู้สมัครคนเดียว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อตลาด ทั้งนี้ ตลาดมองว่าไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ ต่างมีแนวโน้มเดินหน้านโยบายการคลังแบบขยายตัว
5. ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มองว่าการอ่อนค่าของเงินรูปีช่วงที่ผ่านมาเป็นผลจากแรงเก็งกำไร และพร้อมเข้าแทรกแซงตลาดต่อเนื่องจนกว่าค่าเงินจะกลับมามั่นคง โดย RBI ได้ขายดอลลาร์ทั้งในตลาดในประเทศและนอกประเทศ หลังค่าเงินรูปีแตะ 88.8 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์ โดย RBI ต้องการป้องกันไม่ให้ค่าเงินทะลุระดับ 89 ซึ่งถือเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญ ขณะที่เงินรูปีดีดกลับ 0.8% ปิดที่ 88.07 ต่อดอลลาร์ หลังข่าวการแทรกแซง
6. ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่านายกฯ นเรนทรา โมดี ของอินเดียให้คำมั่นว่าจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและอินเดียตึงเครียด โดยทรัมป์ระบุว่า โมดีให้คำมั่นดังกล่าวระหว่างการสนทนาเมื่อวันพุธ พร้อมกล่าวว่า “อินเดียจะไม่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียอีก” แต่ยอมรับว่าการยุติซื้อน้ำมันจะต้องใช้เวลา อินเดียยังเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียรายใหญ่ คิดเป็นราวหนึ่งในสามของการนำเข้าทั้งหมด
7. ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจไทยอนุมัติมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวผ่านการลดหย่อนภาษีสูงสุด 1.5 เท่าและการเร่งเบิกจ่ายสัมมนา และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯ ปี 2569 ตั้ง KPI เบิกจ่ายงบประจำและงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 93% และ 75% ในสัปดาห์หน้าคาดจะพิจารณา Action Plan ของกระทรวงพลังงาน และของกระทรวงพาณิชย์ในการประชุมครั้งถัดไป
ประเด็นที่ต้องติดตาม: PPI MoM ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 0.5% จากก่อนหน้าที่ -0.1%