-
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% โดยตลาดได้รับแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐคงดอกเบี้ย (ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง เหมือนเดิม) และจะชะลอการลดขนาดงบดุลและรัฐบาลเยอรมนีกำลังวางแผนจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลประกอบการของจีนออกมาดีกว่าที่คาดและรัฐบาลมีการสนับสนุนต่อเนื่อง แม้ว่าทางสหรัฐจะเดินหน้าขึ้นภาษีอย่างต่อเนื่องและความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียยังไม่มีแนวโน้มลดลง อีกทั้งเริ่มมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นจีนหลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง
บทสรุป
กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงขายในตราสารหนี้จากความกังวลเงินเฟ้อของนโยบายภาษีของสหรัฐ มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีนหลังท่าทีของรัฐบาลจะสนับสนุนเศรษฐกิจต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาการ AI ในจีน นอกจากนี้มีแรงซื้อในตลาดหุ้นโลกทั้งนี้มองว่านักลงทุนเริ่มกระจายความเสี่ยงแต่ยังมีมุมมองบวกกับเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยที่เราแนะติดตามในสัปดาห์นี้ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ คำสั่งซื้อสินค้าคงทนและความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) ตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซน อย่าง CPI ของอังกฤษ PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ และความเชื่อมั่นผู้บริโภค 3) ทิศทางการดำเนินนโยบายของทรัมป์ 4) ผลประกอบการ Bank of China, BYD, China Merchant Bank, China Telecom, Cnooc, CRRC, Great Wall Motor, Haier Smart Home, Kuaishou Technology, Lululemon, Midea Group, Nongfu Spring, PetroChina, Postal Savings Bank of China
ภาพรวม – ภาพเศรษฐกิจมหภาคมีสัญญาณของการชะลอตัวลงและมีความเสี่ยงของนโยบายภาษีของสหรัฐทำให้แนวโน้มการเติบโตไม่ชัดเจนและตลาดมีความผันผวนสูง และธนาคารกลางคงดอกเบี้ยรอความชัดเจนของผลของนโยบายภาษีของสหรัฐจนกระทั่ง 2 เมษายน 2025 จึงเน้นตั้งรับเป็นสำคัญ ทั้งนี้ติดตามท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ หากผ่อนคลายตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ ในขณะที่ตลาดยุโรปมีความเสี่ยงจากสงครามยูเครนและรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนจีนเผชิญกับแรงขายทำกำไรในระยะสั้นหลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังมีผลประกอบการใน 4Q24 และแนวโน้ม 1Q25 ที่ดีสนับสนุนตลาดในภาพรวมอยู่
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (24-28 มี.ค.) มองว่า 1) PCE สหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดแต่ไม่เปลี่ยนท่าทีของ FED 2) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง 3) เงินเฟ้อญี่ปุ่นยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนออสเตรเลียมีแนวโน้มลดลงแต่ไม่ทำให้มีการลดดอกเบี้ย 4) PBOC ยังคงดอกเบี้ยและตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้น 5) PMI ยุโรปมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ภาคการผลิตยังหดตัว 6) ผลประกอบการจีนมีแนวโน้มดีกว่าที่คาด ทำให้ในสัปดาห์นี้มองว่าเงินเฟ้อที่เป็นประเด็นใหญ่จะกดดันตลาด ในขณะที่ผลประกอบการของจีนน่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระดับหนึ่ง
หุ้นแนะนำ – เราแนะนำหุ้นที่คาดว่างบ 4Q24 ดีและมีแนวโน้มดีใน FY25 อย่าง Haier Smart Home และแนะอยู่ในกลุ่มเชิงรับอย่าง PFE เพื่อลดความผันผวนพอร์ต
