ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดแบบผสมผสาน หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณว่า Fed อาจจะยังไม่พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
กระแสเงินในวันที่ 29 ก.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยี แต่มีแรงขายกลุ่ม Semiconductor 3) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงิน 4) มีแรงซื้อกลุ่มพลังงาน 5) มีแรงขายทำกำไรในตลาดจีน 6) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก 7) เห็นแรงขายในหุ้นกลุ่ม Healthcare
Meta Platforms เผยงบดีสอดคล้องกับมุมมองที่เราแนะเก็งกำไรพอร์ต Short Term โดยมีแรงหนุนหลักจากรายได้ Ads ที่มีประสิทธิภาพขึ้นจากการใช้ AI Tools
MSFT เผยงบ F4Q25 โตดีกว่าคาดหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจหลักที่เติบโต โดยเฉพาะกลุ่มคลาวด์ นอกจากนี้การลงทุน AI เริ่มเห็นผลผ่าน Copilot ที่มีผู้ใช้งานเติบโต
ระยะสั้นทั้ง MSFT และ META 1) Take Profit ได้หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงและเป็นการลดความเสี่ยงตลาดที่ผันผวน 2) แนะมองช่วงหุ้นย่อตัวลงหลังแนวโน้มโตดีจาก AI
งบเซมิฯ ARM QCOM LRCX Mediatek สะท้อน 1) กลุ่มชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI โตดี เช่น HBM ของ LRCX, ชิป AI ASIC ของ Mediatek ในทางตรงกันข้าม QCOM ARM มีแรงกดดันจากลูกค้าหลักที่ลดการพึ่งพาทำให้แนวโน้ม ARM ต่ำกว่าคาดและรายได้ชิปสมาร์ทโฟน QCOM ผิดคาด ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะลงทุนเซมิฯ AI เช่น NVDA TSM AMD
ผลประกอบการ eBay และ Etsy โดยรวมดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกกฎ De Minimis สำหรับทุกประเทศ จะส่งผลให้เพิ่มต้นทุนและความซับซ้อนในการนำเข้าสินค้ามูลค่าต่ำสำหรับทุกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเราชอบ AMZN สุดในกลุ่ม ด้วยขนาดใหญ่กว่า และโครงสร้างโลจิสติกที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยการปรับตัวได้ง่ายกว่า
งบธนาคารใหญ่ในยุโรปโดยรวมดีกว่าคาด หนุนโดยรายได้ตลาดทุน ยกเว้น HSBC ที่กำไรลดลง ซึ่งเราแนะเลี่ยงลงทุนใน HSBC ที่อยู่ในระหว่างปรับโครงสร้าง ในขณะที่เรามองว่า Banco Santander สามารถลงทุนได้จากเศรษฐกิจยุโรปดีกว่าคาด ในระยะยาวเรายังชอบธนาคารที่มีสัดส่วนรายได้ตลาดทุนสูงอย่าง Deutsch Bank, Barclays, UBS
ผลประกอบการกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอย่าง Hermes และ Adidas ออกมากเป็นภาพผสมขึ้น โดยรายได้ของทั้งสองบริษัทยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองบริษัทยังเผชิญความเสี่ยงจากภาษีนำเข้า ทั้งนี้ หากต้องการลงทุนในกลุ่มดังกล่าว เราแนะนำ หุ้นที่มี Valuation น่าสนใจ Downside จำกัด และมีการฟื้นตัวในตลาดจีนอย่าง LVMH
CATL รายงานกำไร 2Q25 โต 34% ดีกว่าคาด แม้แข่งขันรุนแรง ขณะ Panasonic และ LG Energy หันขยายสู่ตลาดแบตเตอรี่ศูนย์ข้อมูลและระบบกักเก็บพลังงานแทน EV เราแนะสามาถเก็งกำไร LGES ในระยะสั้นจากดีล Tesla และรอซื้อ CATL เมื่อราคาย่อลงจากระดับ Valuation ที่สูง
ผู้ผลิตรถยนต์โลกเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และการแข่งขันในจีน นำไปสู่การปรับลดคาดการณ์กำไร เช่น Nissan, Ford, Mercedes-Benz และ Porsche ตรงข้ามกับ Toyota ที่ทำยอดขายยังคงดี เราแนะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีโครงสร้างต้นทุนแข็งแกร่ง ปรับตัวเร็ว และเน้นรถพลังงานใหม่ เช่น TOYOTA, BYD และ GEELY
Grab รายงานงบ 2Q25 ดีกว่าคาด พลิกมีกำไร $35mn รายได้โต 23% จากบริการ ride-hailing, food delivery และสินเชื่อดิจิทัล ผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นแตะ 46 ล้านคน หนุนด้วยกลยุทธ์ Superapp และราคาเข้าถึงได้ เรามอง Grab แข็งแกร่งในภูมิภาคและน่าลงทุนระยะยาว