ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดในแดนลบ จากนักลงทุนกังวลเรื่องเงินเฟ้อสูงเกินกว่าที่คาด รวมไปถึงภาษีกลุ่มยาและผลประกอบการบริษัทส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด
บทสรุป
กระแสเงินในวันที่ 30 ก.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงิน 3) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นโลก 4) มีแรงซื้อกลุ่ม Healthcare 5) มีแรงขายทำกำไรในตลาดจีน 6) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก 7) เห็นแรงขายในกลุ่ม EM 8) มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มเทคโนโลยี
AAPL เผยงบ 2Q25 ดีกว่าคาดและเติบโตซึ่งเราเชื่อว่าเป็นผลมาจาก Pull-in Demand ก่อนที่ทรัมป์จะเริ่มเก็บ Tariff นอกจากนี้แนวโน้มยังน่ากังวลจาก 1) ค่าใช้จ่ายจาก Tariff ที่เพิ่มขึ้น 2) การแข่งขันด้าน AI ที่ตามหลัง Peers ทำให้เรายังไม่แนะนำลงทุน
AMZN เผยงบ 2Q25 เติบโตดีกว่าคาด อย่างไรก็ดีหุ้นตอบสนองเชิงลบหลังคาดการณ์กำไร AWS ต่ำกว่าคาดใน 3Q25 และการเติบโตคลาวด์ที่ต่ำกว่า Peers ขณะที่เราเชื่อว่าระยะกลาง-ยาว ยังเป็นหุ้นที่ดีจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและตำแหน่งธุรกิจที่ได้ประโยชน์จาก AI ทำให้เรามองหุ้นที่ปรับลงตอนนี้เป็นโอกาสในการเข้าลงทุนที่ดี
กลุ่ม Healthcare เผยงบดีกว่าคาดทั้ง BIIB CI CVS นอกจากนี้ LLY มีพัฒนาการเชิงบวกในด้านพัฒนายาเบาหวาน Mounjaro อย่างไรก็ดีแนวโน้มกลุ่ม Healthcare ยังน่ากังวลและมีแรงกดดันจาก 1) Sectorial Tariff 2) นโยบายควบคุมราคายาของทรัมป์ ทำให้เราไม่แนะนำลงทุน
Master Card เผยรายได้ 2Q25 โต 16% YoY ปริมาณการใช้จ่ายและจำนวนธุรกรรม โต 10% YoY สะท้อนภาพผู้บริโภคยังใช้จ่าย แต่เรามองในระยะข้างหน้าอาจชะลอตัว แนะชะลอการลงทุน ด้าน Coinbase งบอ่อนแอ รายได้ลดลง 26% QoQ ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง 10% มองเป็นจังหวะเข้าเก็งกำไรบนภาพการสนับสนุน Stable Coins ผ่าน Genius Act
Unilever รายงานยอดขายรวม 2Q25 โต 3.4% YoY โดยหากเทียบกับ Nestle พบว่า ทั้งสองบริษัทเน้นการขึ้นราคา และได้รับผลกระทบจากต้นทุนสูงขึ้นส่งผลให้ margin หดตัว YoY เราแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่ม Consumer Staples มองว่าในระยะข้างหน้าไม่สามารถขึ้นราคาได้มากจากกำลังซื้ออ่อนแอ รวมไปถึงต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีจะกดดันอัตรากำไร
กลุ่มโรงแรมและสินค้าหรูหรา (Accor, Prada, Ferragamo) โดยรวมทำผลงานได้แย่ ตามแนวโน้มเศรษฐกิจอ่อนแอ โดยยอดขายในเอเชีย (รวมจีน) เป็นภาพผสม โดย Prada ยอดขายดังกล่าวโต 9.4% ในขณะที่ Ferragamo ลดลง 18% เราประเมินว่า หากต้องการเก็งกำไรบนภาพการฟื้นตัวในจีน เรามอง LVMH น่าสนใจจาก Downside จำกัด
อุตฯเซมิฯที่เกี่ยวข้องกับ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงยังมีแนวโน้มดี เราแนะจับตา SK Hynix และกลุ่ม Chip Making Tools เช่น AMAT, LRCX, KLAC, Tokyo Electron
อุตสาหกรรมยานยนต์ยังเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจจีนชะลอตัว แนะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น TOYOTA, BYD, GEELY และ CATL
ยอดขายที่อ่อนแอของ AB InBev และ Budweiser APAC สะท้อนปัญหากำลังซื้อที่ชะลอตัวในจีน ทำให้เรามองว่ากลุ่มเครื่องดื่มในจีนยังไม่เหมาะแก่การลงทุน
