ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดในแดนลบเป็นวันที่สอง หลังตลาดอยู่ระหว่างการประเมินท่าทีที่สับสนของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยประธาน Fed นาย เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง แม้จะเปิดช่องให้มีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมก็ตาม
บทสรุป
กระแสเงินในวันที่ 23 ก.ย. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงซื้อกลับในตราสารหนี้ 2) มีแรงซื้อในโลหะมีค่าจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลง 3) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีน4) มีแรงซื้อในกลุ่ม Healthcare และกลุ่มสินค้าจำเป็น 5) มีแรงขายในกลุ่มการเงิน 6) มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และหุ้นธีม Growth 7) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็ก
InnovestX Research มีการเลือกธีมการลงทุนเทคโนโลยีที่มีการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ได้แก่ Data Center, Robotaxi, Humanoid Robot, Quantum Computing นอกจากนี้เลือกTop pick ธีมลงทุนใน US AI 2 บริษัทใหญ่ อย่าง NVDA MSFT และ Robots & AI 2 บริษัทใหญ่ อย่าง TSLA GOOGL
รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีใหม่กลุ่มสินค้าเทคโนโลยีและการแพทย์ เรามองลบต่อ ISRG AdvaMed Abbott Laboratories L&K Biomed ที่ส่งออกสินค้าข้างต้นไปยังสหรัฐฯ สูง ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์จาก EU เหลือ 15% อย่างไรก็ดีเรามองว่ากลุ่มรถยนต์ในฝั่งยุโรปยังคงมีแรงกดดันสูงอยู่การกำลังซื้อที่ลดลง และการแข่งขันสูง
GOOGL เปิดตัว Mixboard เพื่อช่วยผู้ใช้สร้างภาพและพัฒนาแนวคิดต่าง ๆ ซึ่งเรามองลบต่อ PINS และ ADBE นอกจากนี้ Google จะเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินด้วย PayPal เรามองประเด็นนี้เป็นบวกทั้งสองบริษัทหลัง 1) PYPL จะได้ประโยชน์จากการขยายฐานผู้ใช้งาน 2) GOOGL ได้ประโยชน์จากการที่มีผู้ใช้งาน AI มากขึ้น โดยเราแนะลงทุนเมื่อหุ้นย่อตัวลงมา
ORCL ขายพันธบัตรมูลค่า $18bn เพื่อลงทุนในโครงสร้างคลาวด์ เราเชื่อว่าจะยังรักษาคุณภาพเครดิตไว้ได้ จากสัญญาที่มีอยู่กับลูกค้ารายใหญ่ และแนวโน้มยังดี ด้าน INTC มีการคุยกับ APPL ที่จะเข้ามาลงทุน เรามองว่า INTC อยุ่ในระหว่างการปรับโครงสร้าง โดยรวมมือกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อรักษาลูกค้า อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงจากความหวังมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เราแนะระมัดระวัง
JD Sports รายงานงบครึ่งปีแรก กำไรลดลง 13.5% ฉุดโดยตลาดสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านราคา ในขณะที่ LVMH เร่งกระจายรายได้จากสหรัฐฯ และจีน มุ่งขยายตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งมีการเติบโตสูง สำหรับสินค้าไม่จำเป็น เราแนะอยู่ในกลุ่มสินค้าเกี่ยวข้องกับกำลังซื้อสูง ที่การแข่งขันด้านราคาต่ำ และมี Downside จำกัด โดยเราชอบหุ้นใหญ่อย่าง LVMH และ Hermes
จีนเตรียมคุมค่าธรรมเนียมและการแข่งขันแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเพื่อยุติสงครามราคา หนุนผู้เล่นรายใหญ่ที่มี Scale อย่าง Meituan, JD.com และ Alibaba ให้ได้เปรียบและมีโอกาสที่ margin อาจฟื้นตัวหากการแข่งขันลดลง โดยประเมิน Meituan ที่เป็นผู้นำตลาดจะได้ประโยชน์มากที่สุด
Alibaba หุ้นทำจุดสูงสุดรอบเกือบ 4 ปี หลังมีพัฒนาการด้าน AI ในการร่วมมือ Nvidia, เปิดตัว Qwen3-Max LLM และขยาย Data Center ทั่วโลก หนุน Sentiment บวกต่อกลุ่ม China AI & Cloud (Alibaba, Tencent, Kuaishou) และ semiconductor (SMIC, Hua Hong) ระยะสั้นมองเก็งกำไรได้ ขณะที่ระยะยาวยังต้องติดตามการ monetize AI
