ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดในแดนลบเป็นวันที่สาม หลังตัวเลขเศรษฐกิจ 1) GDP ไตรมาส 2 เติบโต 3.8% ดีกว่าคาด 2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับ 218,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ การเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ตึงตัวนี้ ทำให้นักลงทุนมองว่า Fed อาจพิจารณาเลื่อนหรือลดจำนวนครั้งในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
กระแสเงินในวันที่ 24 ก.ย. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงซื้อกลับในตราสารหนี้ 2) มีแรงขายทำกำไรในโลหะมีค่า 3) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็ก 4) มีแรงขายในกลุ่มการเงินจากดอกเบี้ย 5) มีแรงซื้อในเชิงรับอย่างกลุ่ม Consumer Staple และธีมหุ้นปันผลสูง 6) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็ก 7) มีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นจีน
ธีมลงทุนใน China Semiconductor & AI และ Robots & AI INVX เลือก SMIC23, HUAHONG23, UBTech Robotics (9880) และ Unitree Robotics (คาด IPO 4Q25)
ธีมลงทุนใน หุ้นกลุ่ม Mining (โลหะมีค่า) ขนาดใหญ่ กำไรดี ราคายังไม่แพง INVX เลือก BHP Group (BHP), Northern Star Resources (NST), และ Barrick Mining (ABX)
สหรัฐฯจะเรียกเก็บ ภาษี 100% สำหรับผลิตภัณฑ์ยาที่เป็นแบรนด์เนมหรือมีสิทธิบัตรที่นำเข้า โดยจะมีผล 1 ต.ค. 2025 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดีบริษัทจะได้รับการยกเว้นภาษี หากมีการสร้างโรงงานผลิตยาในสหรัฐฯ ซึ่งเราเชื่อว่าความไม่แน่นอนยังคงสูง ถึงแม้ว่าหลายบริษัทยาในยุโรปและสหรัฐฯมีการประกาศลงทุนในสหรัฐฯแล้วทำให้เรายังคงไม่แนะนำลงทุนในกลุ่มผู้ผลิตยา
กลุ่มเทคฯมีแรงกดดันในช่วงวานนี้คือ 1) SAP โดน EU ตรวจสอบการผูกขาดและกฎระเบียบ 2) ACN แม้จะเผยงบดี แต่แนวโน้มรายได้ลดลงจากลูกค้าภาครัฐฯ รวมถึงแนวโน้มค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากประเด็นค่าวีซ่า H1B ที่เพิ่มขึ้น ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะมองกลุ่มเทคฯ Pure Play ที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีกว่า อย่าง PLTR ORCL MSFT GOOGL AMZN META โดยแนะมองในช่วงหุ้นย่อตัวลง
COST เผยงบ F4Q25 ดีกว่าคาด กำไรสุทธิโต 11% รายได้เพิ่ม 8% รายได้ค่าสมาชิกเพิ่มขึ้น 14% หนุนโดยการขึ้นค่าสมาชิก อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวเป็น 11.1% โดยรวม COST ยังเป็นหุ้นที่เราชอบในระยะยาว จากการเติบโตที่ยืดหยุ่นต่อภาวะเศรษฐกิจ และการเติบโตของสมาชิกที่ดี อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูง เราแนะมองกลยุทธ์ Buy on Dip เป็นหลัก
SBUX เผยแผนปรับโครงสร้างรวม 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 4Q25 โดยจะยกเลิกตำแหน่งงานประมาณ 900 ตำแหน่ง และจะปิดร้านค้าที่ไม่ได้กำไร เราประเมินว่า ในระยะสั้น ราคาหุ้นรีเเอคจำกัดต่อข่าวลบ มอง Downside เริ่มน้อยหรือจำกัด อย่างไรก็ดี เรามองว่า Upside ขึ้นอยู่กับการ Restructuring ที่เห็นผล โดยเราแนะติดตามท่าทีหรือพัฒนาการของการปรับโครงสร้างให้มีความชัดเจนก่อนลงทุน
Xiaomi เร่งขยาย Ecosystem ผ่านการเปิดตัว 17 Series, EV YU7 ยอดจองทะลุ 289k คัน และการลงทุน AIoT, ชิป AI หนุนการเติบโตระยะยาว เรามองยังแนะลงทุนได้
ยอดขายรถยุโรป ส.ค. โต +4.7% หนุนจาก BEV และ PHEV โดย BYD แซง Tesla ต่อเนื่อง ด้านค่ายยุโรปยังมีความเสี่ยง แนะมองผู้ผลิตจีน Xpeng, Geely, Zeekr และ Xiaomi ที่ขยายตลาดได้เร็ว